อันตรายของบุหรี่ ในผู้ป่วยเบาหวาน
การสูดควันบุหรี่ ไม่ว่าจะมือหนึ่ง มือสอง ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกับผู้ที่ป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ (NCDs) จากการศึกษา พบว่าผู้ที่สูบบุหรี่ มีโอกาสประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ที่จะป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากกว่าผู้ที่ไม่สูบ สามารถพูดได้ว่า ยิ่งสูบ ยิ่งเสี่ยง
การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวาน
ข้อมูลจากสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า โรคเบาหวานเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้คนมากกว่า 87,000 รายในปี 2019 นับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 7 ในประเทศสหรัฐอเมริกา และคาดว่ามีรายที่เสียชีวิตจากโรคเบาหวานที่เกิดจากการสูบบุหรี่สูงถึง 9,000 รายในทุกปี
สารเคมีและสารพิษในบุหรี่จะทำให้เซลล์ในร่างกายเกิดการอักเสบ ซึ่งทำให้ฤทธิ์การทำงานของอินซูลินด้อยลง และเมื่อสารพิษในบุหรี่มาเจอเข้ากับออกซิเจนในร่างกาย จะเกิด Oxidative Stress คือ ภาวะที่ร่างกายมีสารอนุมูลอิสระสูงมากเกินสมดุล และเมื่อร่างกายอยู่ภายใต้ภาวะนี้มากเข้า ก็สามารถพัฒนาไปเป็นโรคเบาหวานได้ในอนาคต นอกจากนี้ ผู้ที่สูบบุหรี่ ยังมีแนวโน้มมีไขมันในท้องสูง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เข้าไปอีก (แม้ว่าจะไม่ได้อ้วน หรือมี BMI เกินมาตรฐานก็ตาม)
ผู้ป่วยเบาหวานที่สูบบุหรี่ ยิ่งเพิ่มโอกาสโรคแทรกซ้อน
การสูบบุหรี่ทำให้คุมโรคเบาหวานได้ยากขึ้น ยิ่งปริมาณนิโคตินที่ได้รับจากบุหรี่มากเท่าไร ยิ่งทำให้เซลล์ในร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ลดลง นั่นทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ผู้ป่วยเบาหวานที่สูบบุหรี่จึงจะต้องใช้ปริมาณอินซูลินเพิ่มขึ้นเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพ รวมไปถึงเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ดังนี้
- โรคหัวใจ: การสูบบุหรี่จะไปเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี และไปลดระดับคอเลสเตอรอลดีในร่างกาย และเมื่อเวลาผ่านไป คอเลสเตอรอลที่สูงก็จะไปก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตามมา
- ความดันโลหิตสูง: ผู้ป่วยเบาหวานที่สูบบุหรี่ จะมีความเสี่ยงที่จะทำให้หลอดเลือดเสียหายจากการอักเสบ และการอักเสบในหลอดเลือดจะทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัวแล้วก่อให้เกิดความดันโลหิตสูงได้
- โรคไต: หากผู้ป่วยเบาหวานสูบบุหรี่ จะมีแนวโน้มที่จะเกิดการรั่วของโปรตีนในปัสสาวะ และทำให้ไตวายได้ในที่สุด
- ระบบการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลายไม่ดี: การสูบบุหรี่จะก่อให้เกิดความเสียหายของหลอดเลือดฝอย ทำให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลายไม่ดี โดยเฉพาะขาและเท้า ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการเป็นแผลติดเชื้อได้ง่าย หายยาก และอาจนำไปสู่การตัดขาหรือตัดเท้าในผู้ป่วยเบาหวาน
- ระบบประสาทเสียหาย: การอักเสบจากการสูบบุหรี่ นอกจากจะทำให้หลอดเลือดฝอยเสียหาย ยังทำให้เส้นประสาทเสียหายด้วย อาจทำให้เกิดอาการเจ็บ อาการชา และเสียวหรือซ่าได้
อย่างไรก็ดี การเลิกบุหรี่ ไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานหายจากโรค หรือทำให้สุขภาพร่างกายกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์เหมือนตอนก่อนที่จะป่วย เพราะโรคนี้เป็นโรคเรื้อรังที่ก่อให้เกิดการอักเสบ การเสื่อม ที่ส่งผลให้ระบบในร่างกายผิดปกติไป แต่ถ้าหากสามารถเลิกบุหรี่ได้ ผู้ป่วยจะสามารถควบคุมโรคได้ง่ายขึ้น ให้โรคอยู่ในระยะสงบและมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น