นพ. ดำเกิง ปฐมวาณิชย์ หมอปลูกผม ผู้บุกเบิกการทำศัลยกรรมปลูกผมในประเทศไทยตั้งแต่นับหนึ่ง
ในปัจจุบันเมื่อพูดถึงวิธีการรักษาปัญหาสุขภาพเส้นผมอย่าง ผมบาง ผมร่วง หัวล้าน เชื่อว่า ศัลยกรรมปลูกผม หรือการปลูกผม น่าจะเป็นคำตอบที่โผล่ขึ้นมาในหัวเป็นอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบมาก่อนว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว การปลูกผมในประเทศไทยนั้น ยังเป็นเรื่องที่คนในสังคมยังไม่เชื่อกันเลยว่าจะสามารถเป็นจริงได้ แต่มีคุณหมอท่านหนึ่ง สามารถทำให้สำเร็จ และบุกเบิกการปลูกผมให้เป็นจริงขึ้นมาได้ และในวันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ นพ.ดำเกิง ปฐมวาณิชย์ ชายผู้เป็นตำนาน ผู้บุกเบิกการปลูกผมคนแรกในประเทศไทย
จุดเริ่มต้นของ นพ.ดำเกิง กับโอกาสในการเรียนรู้การปลูกผมจากรุ่นแรก ๆ ของโลก
“ผมมีโอกาสได้ไปเจอกับเหล่าแพทย์ที่เป็นผู้บุกเบิกการทำศัลยกรรมปลูกผมรุ่นแรก ๆ ของโลก การได้ไปเรียนรู้กับพวกเขา 1 ปี เป็นอะไรที่เปิดโลกมาก ๆ เพราะที่นั่นคือ Center แห่งเดียวในอเมริกาที่เปิดให้แพทย์จากทั่วโลกเข้ามาเรียนรู้ด้านศัลยกรรมปลูกผมในยุคนั้น”
เส้นทางชีวิตของการเป็นแพทย์ของคุณหมอดำเกิงนั้น เต็มไปด้วยการเดินทางที่น่าสนใจ เริ่มจากการเป็นนักเรียนแพทย์ในประเทศไทย สู่การสอบ ECFMG (Educational Commission for Foreign Medical Graduates) ไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สอบวุฒิบัตรศัลยศาสตร์ อเมริกันบอร์ดสำเร็จ และได้ค้นพบตัวเองว่ามีความชื่นชอบในด้าน ศัลยกรรมเสริมความงาม จึงได้เลือกไปเป็นแพทย์ผู้ช่วยอาจารย์ (Fellow) ที่ Center of Cosmetic Surgery เมือง Little Rock รัฐ Arkansas ผ่านทาง สถาบันศัลยกรรมความงามแห่งอเมริกา (American Academy of Cosmetic Surgery - AACS) และทำให้ได้มีโอกาสได้พบเจอกับสิ่งที่เขาสนใจ และเป็นสิ่งใหม่ในยุคสมัยนั้นอย่าง การทำศัลยกรรมปลูกผม ซึ่งประสบการณ์นี้ ทำให้คุณหมอดำเกิงเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ทั้งในด้านการทำศัลยกรรมเสริมความงาม และศัลยกรรมปลูกผม
ศัลยแพทย์ ผู้บุกเบิกการปลูกผมเป็นคนแรกของประเทศไทย
“ตอนที่ผมตัดสินใจกลับมาที่ไทย ในขณะนั้นยังไม่มีใครที่ทำการปลูกผมได้สำเร็จโดยมีมาตรฐานเป็นขั้นเป็นตอนเลย ดังนั้นการที่ผมมาเริ่มต้น จึงไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งแรกที่ต้องทำคือการสร้างความเชื่อมั่น ให้คนไทยเห็นว่า การปลูกผมเป็นเรื่องที่เป็นไปได้”
คุณหมอดำเกิงได้เล่าถึงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ นั่นคือการตัดสินใจกลับจากอเมริกามาบุกเบิกการทำศัลยกรรมปลูกผมในประเทศไทย ซึ่งในช่วงเวลานั้น การทำศัลยกรรมปลูกผมในประเทศไทยยังไม่มีใครทำสำเร็จได้เลย การกลับมาของคุณหมอดำเกิง จึงเป็นการเริ่มนับหนึ่งของวงการนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
“ความยากคือ ภาพลักษณ์ของการปลูกผมในยุคนั้นมันไม่ดีเลยครับ ปลูกกันไม่สำเร็จ ทำแล้วก็เน่า มีปัญหาบ้าง แล้วจู่ ๆ ผมโผล่มาหัวเดียวกระเทียมลีบแล้วพูดว่า ผมทำได้ เชื่อสิ ทำแล้วคนไข้ Happy นะ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่คนจะเชื่อในทันที ก็ลำบาก”
แต่ด้วยความโชคดี และด้วยประสบการณ์ที่สะสมมา ทำให้คุณหมอดำเกิงมีโอกาสได้รับเชิญไปพูดเรื่องการปลูกผมที่สมาคมแพทย์แห่งประเทศไทย ซึ่งในวันนั้นมีอาจารย์แพทย์ท่านหนึ่งเข้าร่วมฟังการบรรยาย แล้วสนใจ อยากทำการปลูกผม เลยติดต่อเข้ามา การปลูกผมในประเทศไทยจึงได้เริ่มต้นนับ 1 ในวันนั้น ซึ่งแน่นอนว่าผลลัพธ์คือประสบผลสำเร็จ จากนั้นแพทย์ท่านอื่น ๆ ที่สนใจทำการปลูกผมก็กล้าที่จะเข้ามาทำมากขึ้น และค่อย ๆ ขยายวงกว้างสู่คนทั่วไป และทำให้ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของการทำศัลยกรรมปลูกผมในประเทศไทยค่อย ๆ ได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น
“ในเวลาต่อมา ที่อเมริกาเขาก็ได้ก่อตั้งสมาคมชื่อว่า ISHRS (International Society of Hair Restoration Surgery) เป็นองค์กรที่รวมแพทย์ปลูกผมจากทั่วโลกมารวมตัวกัน ซึ่งผมก็ได้เป็นคณะกรรมการผู้ว่าการ (Board of Governors) ของสมาคม”
อีกหนึ่งบทบาทที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของคุณหมอดำเกิงนั่นก็คือ การเป็นหนึ่งในสมาชิกและหนึ่งในอาจารย์ผู้ฝึกสอนของสมาคม ISHRS ซึ่งมีสมาชิกเป็นแพทย์ปลูกผมจากทั่วโลกรวมกันมากกว่าหนึ่งพันชีวิต ซึ่งในสมาคมนี้ ก็ได้มีการก่อตั้งสถาบันฝึกสอนการปลูกผม เปิดสอนแพทย์จากทั่วโลกเป็นเวลานานกว่า 15 ปี ซึ่งคุณหมอดำเกิงก็ได้มีบทบาททั้งในด้านการสอน การวิจัย การเขียนตำราแพทย์ และการออกแบบเทคนิคการผ่าตัดเช่น Laser Hairline Design รวมถึงเทคนิคการตัดเย็บ จนทำให้คุณหมอดำเกิงได้รางวัล ‘Golden Follicle Award for Outstanding Contribution in The Field of Hair Restoration Surgery’ จากทางสมาคมในปี 2010 ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของทางสมาคมที่จะมอบให้แพทย์เพียงคนเดียวจากจำนวนมากกว่าพันคนในปีนั้น ๆ และจนถึงปัจจุบัน คุณหมอดำเกิงก็ยังเป็นแพทย์คนเดียวในเอเชียที่ได้รับรางวัลนี้
ปลูกผมที่โรงพยาบาล ปลอดภัย อุ่นใจกว่า
“ผมชำนาญด้านการปลูกผมก็จริง แต่ไม่ได้ชำนาญในพื้นที่ของโรคอื่น ๆ นะครับ ถ้าหากคนไข้ที่มาปลูกผมเขามีโรคประจำตัวอื่น ๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน หรือระหว่างการปลูกผมแล้วเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา นอกจากนี้ ยังมีคนไข้หลายท่านที่ต้องการใช้ยาสลบระหว่างการปลูกผม ซึ่งก็จำเป็นจะต้องมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลตลอดการทำหัตถการ ดังนั้นการปลูกผมในโรงพยาบาลก็จะตอบโจทย์ในเรื่องของความปลอดภัย อุ่นใจได้มากกว่า”
บทบาทล่าสุดของคุณหมอดำเกิงนั่นก็คือ การเป็นหัวหน้าศูนย์ปลูกถ่ายเส้นผม โรงพยาบาลเมดพาร์ค ซึ่งคุณหมอดำเกิงได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับข้อดีของการเลือกปลูกผมที่โรงพยาบาล สิ่งสำคัญที่สุดที่คนไข้จะได้รับก็คือความปลอดภัยนั่นเอง ซึ่งที่ ศูนย์ปลูกถ่ายเส้นผม โรงพยาบาลเมดพาร์ค มีความพร้อมสำหรับการปลูกผมอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรแพทย์ ทีมพยาบาล ทีมงานปลูกผม รวมถึงสถานที่ทั้งห้องผ่าตัด ห้องสระผม ห้องตรวจ ทุกอย่างสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล
ที่สำคัญ การปลูกผมในโรงพยาบาลนั้น เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาสุขภาพเช่น เบาหวาน โรคหัวใจ ที่อาจต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งการปลูกผมที่โรงพยาบาลจะช่วยให้คนไข้มั่นใจได้ว่า หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ก็สามารถส่งต่อการรักษาให้กับแพทย์เฉพาะทางในทุกสาขาโรคได้อย่างไร้รอยต่อ
“ปลูกผมก็เหมือนปลูกต้นไม้ กว่าคนไข้จะกลับมาดูดีได้เนี่ย บางทีมันใช้เวลา เราในฐานะหมอก็ต้องคอยจับมือ ปลอบใจ ให้กำลังใจคนไข้ ทำให้เขามั่นใจให้ได้ว่า เดี๋ยวมันงอกขึ้นมาดีแน่นอน ดูเป็นธรรมชาติ อดทนหน่อยนะ คุณมั่นใจในทีมของเราได้ ไม่ต้องกังวล เราทำมานานแล้ว”
ในปัจจุบันนี้ แม้คุณหมอดำเกิงจะยืนระยะของการเป็นแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการปลูกผมมาเป็นเวลากว่า 30 ปี แล้ว แต่ความเร็วและความแม่นยำในการทำหัตถการของอาจารย์นั้น ยังคงอยู่ในระดับ Top Class คือทั้งเร็ว ทั้งแม่น และมือนิ่งมาก ซึ่งคุณหมอก็ได้เผยเคล็ดลับในการดูแลตัวเองทิ้งท้ายไว้ว่า
“ส่วนใหญ่แล้วผมจะว่ายน้ำครับ ผมชอบเดินในน้ำ ปั่นจักรยาน และในชีวิตประจำวันผมจะพยายามเดินให้มากที่สุดครับ อย่างที่ทำงานผมมีลิฟต์ ผมก็เลือกที่จะเดินขึ้นลงแทน ได้ออกกำลังกายครับ แล้วก็เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพครับ”