แพ็กเกจวัคซีนเสริมเกราะภูมิคุ้มกัน โรคงูสวัด + ไวรัส RSV

อายุมากขึ้น ภูมิคุ้มกันเริ่มถดถอย ไม่แข็งแรงเหมือนหนุ่มสาว โรคภัยที่อาจดูไม่รุนแรงในตอนยังอายุไม่มาก กลายมาเป็นโรคที่รุนแรงมากขึ้น และเป็นอันตรายมากขึ้น อย่าง โรคงูสวัด ที่ไวรัสจะไปหลบอยู่ในปมประสาทในผู้ที่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน แล้วพอภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ร่างกายไม่แข็งแรง ไวรัสก็จะทำให้โรคกำเริบขึ้นมา ระดับความรุนแรงจะแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขทางสุขภาพของแต่ละคน แต่จะเป็นอันตรายในผู้สูงอายุ

เช่นเดียวกับไวรัส RSV ในคนที่แข็งแรงดี อาจมีอาการเพียงเป็นไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล โดยลักษณะของไข้จะมีไข้สูงหรือไข้ต่ำ ๆก็ได้ แต่ยังมีกลุ่มผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือเกิดปอดอักเสบติดเชื้อตามมาได้โดยง่าย ได้แก่ทารกคลอดก่อนกำหนดโดยเฉพาะที่อายุครรภ์น้อยกว่า 29 สัปดาห์ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคปอด เป็นต้น มีโอกาสที่โรคจะทรุดตัวได้อย่างรวดเร็วจนถึงขั้นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจได้ ดังนั้น เมื่อรู้ว่าเสี่ยง การป้องกันไว้ก่อนจึงเป็นเรื่องจำเป็น และคุ้มค่า ซึ่งในปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดและวัคซีนป้องกันไวรัส RSV ที่มีประสิทธิภาพ

วัคซีนป้องกันงูสวัดชนิดใหม่ Recombinant subunit zoster vaccine (RZV) วัคซีนนี้ไม่มีเชื้อเป็นของไวรัสวาริเซลลา-ซอสเตอร์ แต่ใช้ ไกลโคโปรตีนอี ซึ่งเป็นโปรตีนของเชื้อไวรัสงูสวัดแทน ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 97%  ในผู้ใหญ่อายุ 50 ปีขึ้นไป ประสิทธิภาพในการป้องกันอาการปวดเส้นประสาท (PHN) 91.2%  เมื่อติดตามยาวนานถึง 10 ปี พบว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 89%

ใครควรฉีดวัคซีนงูสวัด Shingrix®

• ผู้ใหญ่ อายุ 50 ปีขึ้นไป ให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อต้นแขน 2 เข็ม ห่างกัน 2-6 เดือน
• ผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคงูสวัดสูงกว่าปกติ  เช่น ผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันมีปัญหา ผู้กำลังรับใช้ยาสเตียรอยด์ และผู้ที่รับการรักษาด้วยรังสีวิทยาหรือเคมีบำบัด เพราะกลุ่มคนเหล่านี้จะมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าคนปกติ จึงทำให้เสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป  ฉีดเข้ากล้ามเนื้อต้นแขน 2 เข็ม ห่างกัน 1-2 เดือน
• ในกรณีที่เคยได้วัคซีนเชื้อเป็น (ZVL) มาก่อน สามารถรับวัคซีนงูสวัด Shingrix® ได้ โดยให้ห่างจากวัคซีนเชื้อเป็นอย่างน้อย 2 เดือน
• ในกรณีที่เป็นโรคงูสวัดมาก่อน สามารถให้วัคซีนงูสวัด Shingrix® ได้ หลังจากโรคงูสวัดหายแล้ว  6 เดือน

ลำดับต่อมาคือวัคซีนป้องกันไวรัส RSV ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน โรคทางเดินหายใจส่วนล่าง 94.6% ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ RSV รุนแรง

ใครควรฉีดวัคซีนป้องกันโรค RSV

• ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปและมีโรคร่วม เช่น โรคหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจขาดเลือด โรคหัวใจล้มเหลว โรคเบาหวาน โรคไต มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส RSV
• ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป อาศัยอยู่ในครอบครัวใหญ่ ที่มีเด็ก และผู้สูงวัย ในบ้านเดียวกัน 

เงื่อนไขการบริการ

• ราคาดังกล่าวรวมค่าธรรมเนียมแพทย์ ค่าบริการพยาบาลและค่าบริการโรงพยาบาล
• ผู้รับบริการต้องมี อายุ 15 ปีขึ้นไป
• ทางโรงพยาบาลจะทำการบริหารวัคซีนให้ผู้ป่วยโดยแพทย์หรือพยาบาลวิชาชีพของโรงพยาบาลเมดพาร์คเท่านั้น โดยจะไม่จ่ายวัคซีนให้ผู้ป่วยไปบริหารเองที่บ้านหรือสถานพยาบาลอื่น
• ราคานี้ไม่รวมค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ ค่าใช้จ่ายอื่น ในกรณีที่ตรวจพบความผิดปกติ และต้องรับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
• ราคานี้ไม่รวม ค่ารักษาอื่น ๆ ในกรณีผู้ป่วยมีโรคประจำตัวหรือภาวะแทรกซ้อน
• ไม่สามารถให้ผู้อื่นมาใช้บริการแทนได้
• ขอสงวนสิทธิ์สำหรับชาวไทย และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
• ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทุกกรณี