อาการ ปัจจัยเสี่ยง และวิธีการรักษาโรคไขมันพอกตับ - Fatty Liver Nonalcoholic Fatty Liver

Nonalcoholic fatty liver disease (NAFLD): Signs, Treatments

Nonalcoholic fatty liver disease (NAFLD) is an abnormal liver condition caused by excessive fat buildup in the liver cells. Fatty liver or hepatic steatosis is associated with obesity

Share

เลือกหัวข้อที่อ่าน


โรคไขมันพอกตับ คืออะไร?

โรคไขมันพอกตับ (Non-alcoholic fatty liver disease; NAFLD) คือภาวะความผิดปกติของตับ อันเกิดจากการสะสมของไขมันในเซลล์ตับที่มีปริมาณมาก โดยการเกิดภาวะไขมันพอกตับนั้นมีความสัมพันธ์กับ ภาวะน้ำหนักเกิน และไขมันในเลือดสูง หรือน้ำตาลในเลือดสูง ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ภาวะไขมันพอกตับนั้นอาจไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อตับโดยตรง อย่างไรก็ดีผู้ป่วยราวหนึ่งในสามอาจมีการอักเสบของตับได้ (Nonalcoholic steatohepatitis หรือ NASH) ซึ่งหากการอักเสบภายในตับนี้เกิดขึ้นอย่างซ้ำ ๆ เป็นระยะเวลานานจะนำไปสู่การสะสมของพังผืด (fibrosis) ที่เกิดจากการซ่อมแซมความเสียหายภายในตับ และเมื่อพังผืดเหล่านี้สะสมในปริมาณมากก็จะนำไปสู่ภาวะตับแข็ง (cirrhosis) ในอนาคต รวมทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดภาวะมะเร็งตับ (Liver Cancer) อีกด้วย

อย่างไรก็ดีแม้จะมีผู้ป่วยไขมันพอกตับเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่มีภาวะตับอักเสบ แต่การมีภาวะไขมันพอกตับนี้จัดเป็นความเสี่ยงหนึ่งของภาวะแทรกซ้อนทางระบบหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากผู้ป่วยในกลุ่มนี้มักมีภาวะน้ำหนักเกิน รวมถึงมีโรคที่เพิ่มความเสี่ยงต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดร่วมด้วย เช่น ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน เป็นต้น

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคไขมันพอกตับ

ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าการเกิดไขมันพอกตับมีความสัมพันธ์กับภาวะน้ำหนักตัวที่สูงขึ้น ปัจจุบันลักษณะการใช้ชีวิตและอาหารการกินแบบตะวันตกทำให้ประชาชนมีอัตราการเกิดกลุ่มอาการอ้วนลงพุง หรือ metabolic syndrome (ซึ่งประกอบไปด้วยรอบเอวที่เกิน 90 ซม ในผู้หญิง และ 100 ซม ในผู้ชาย, ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเลือดสูง และน้ำตาลในเลือดสูง) มากขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นส่วนส่งเสริมให้เกิดภาวะไขมันพอกตับมากขึ้น รวมทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในอนาคตอีกด้วย

นอกจากสาเหตุหลักดังกล่าวแล้ว ความผิดปกติของฮอร์โมน หรือการใช้ยาบางชนิดก็เป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดภาวะไขมันพอกตับเช่นเดียวกัน ได้แก่ ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS), โรคไทรอยด์, ภาวะพร่องหรือขาดฮอร์โมน (Hypopituitarism or underactive pituitary gland) และการใช้ยา เช่น tamoxifen

โรคไขมันพอกตับ มีอาการอย่างไร

ผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันพอกตับ หรือมีตับอักเสบจากไขมันพอกตับส่วนใหญ่ไม่มีอาการ และอาการแสดงชัดเจน มักตรวจพบได้จากการตรวจร่างกายประจำปี โดยอาจมีการตรวจพบว่ามีค่าเอ็นไซม์ตับผิดปกติ หรือ อาจตรวจพบจากการทำอัลตร้าซาวน์ช่องท้องแล้วพบว่าตับมีการสะสมของไขมัน

เมื่อไหร่จึงต้องพบแพทย์

ในผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยภาวะไขมันพอกตับมีความจำเป็นต้องได้รับการประเมินระดับความรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการตรวจวัดปริมาณพังผืดในตับว่ามีมากน้อยเพียงใด แม้ผู้ป่วยจะไม่มีอาการก็ตาม รวมทั้งการตรวจหาโรคร่วมต่าง ๆ อันได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น ดังนั้นผู้ป่วยควรได้รับคำแนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจเพิ่มเติมต่อไป

 การตรวจและรักษาโรคไขมันพอกตับ (NAFLD)

โรคไขมันพอกตับ มีวิธีการตรวจวินิจฉัยอย่างไร

ส่วนใหญ่วินิจฉัยเบื้องต้นจากภาพถ่ายทางรังสี โดยอัลตร้าซาวน์ช่องท้องเป็นหลักเพื่อดูลักษณะของตับที่มีการสะสมของไขมัน ร่วมกับการตรวจค่าเอ็นไซม์ตับว่ามีตับอักเสบหรือไม่ และอาศัยการตรวจเพิ่มเติมเพื่อทำการวินิจฉัยแยกโรคอื่นที่เป็นสาเหตุของตับอักเสบ หรือไขมันสะสมในตับออกไป โดยการตรวจเพิ่มเติมแพทย์จะทำการพิจารณาตรวจในผู้ป่วยแต่ละราย ดังนี้

การตรวจเลือด

  • การตรวจการทำงานของตับ
  • การตรวจคัดกรองไวรัสโรคตับอักเสบ B และ C
  • การตรวจเพื่อหาโรคร่วมต่าง ๆ เช่น ระดับน้ำตาลและน้ำตาลสะสมในเลือด, ตรวจวัดระดับไขมันในเลือด เป็นต้น

การตรวจวัดผังผืดตับ

ปัจจุบันวิธีมาตรฐานที่ใช้ในการตรวจประเมินพังผืดตับเรียกว่าการตรวจ fibroscan หรือ transient elastography วิธีการตรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจวัดความยืดหยุ่นของตับ และนำไปแปลผลเป็นค่าปริมาณพังผืดในตับต่อไป ซึ่งปริมาณพังผืดตับนี้นับเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการวางแผนการดูแลรักษาผู้ป่วยต่อไป รวมทั้งเครื่องตรวจ fibroscan รุ่นใหม่ยังสามารถวัดปริมาณไขมันในตับได้อีกด้วย โดยวิธีการตรวจสามารถทำได้ง่ายโดยการใช้หัวตรวจแตะที่บริเวณผิวหนังของผู้ป่วย และส่งคลื่นเสียงสะท้อนไปยังบริเวณตับ สามารถทำได้ง่าย รวดเร็ว และไม่มีความเจ็บปวด

วิธีอื่นที่เป็นทางเลือกในการตรวจวัดพังผืดตับ ได้แก่ การสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)โดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าร่วมกับอุปกรณ์พิเศษสำหรับการตรวจวัดความยืดหยุ่นของเนื้อตับเพื่อในไปแปลผลเป็นค่าผังผืดตับ

การเจาะชิ้นเนื้อตับ (Liver tissue examination)

ปัจจุบันมีที่ใช้ค่อนข้างน้อย เนื่องจากมีเครื่องมืออื่น ๆ ที่สามารถทดแทนได้โดยไม่ต้องทำการเจาะให้ผู้ป่วยเกิดความเจ็บปวด แต่ในผู้ป่วยบางรายที่การตรวจหาสาเหตุของภาวะตับอักเสบไม่แน่ชัด อาจพิจารณาการเจาะชิ้นเนื้อตับเพื่อนำไปตรวจโดยกล้องจุลทรรศน์เป็นราย ๆ

โรคไขมันพอกตับ มีวิธีการรักษาอย่างไร

การลดน้ำหนักเป็นวิธีการรักษาที่ดี และมีประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาภาวะไขมันพอกตับ เนื่องจากสามารถลดได้ทั้งปริมาณไขมัน, การอักเสบ และปริมาณพังผืดในตับ นอกจากนี้การลดน้ำหนักยังส่งผลดีต่อโรคร่วมต่าง ๆ ทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และ ไขมันในเลือดสูงอีกด้วย โดยทั่วไปแพทย์มักแนะนำให้ผู้ป่วยลดน้ำหนักประมาณร้อยละ 5-10 ของน้ำหนักตัวเดิม

ใครเสี่ยงเป็นไขมันพอกตับ - NAFLD

Published: 03 Sep 2020

Share

Related Doctors

  • Link to doctor
    Dr Santi  Kulpatcharapong

    Dr Santi Kulpatcharapong

    • Gastroenterology & Hepatology
    Gastroscopy and Colonoscopy, Gastroenterology and Hepatology, Colorectal Screening, Elevated Liver Enzymes, Non-alcoholic steatohepatitis (NASH), Alcoholic Hepatitis, Viral Hepatitis, Endoscopic Retrograde Cholangiopancreatography (ERCP), Gastrointestinal Bleeding, Chronic Abdominal Pain, Fibroscan, Liver Mass / Live Nodule / Liver Cyst, Gastroesophageal Reflux Disease (GERD), Liver Failure, Cirrhosis
  • Link to doctor
    Dr Sukawit Thongsri

    Dr Sukawit Thongsri

    • Gastroenterology & Hepatology
    Gastroenterology and Hepatology
  • Link to doctor
    Assoc. Prof. Dr Chonticha Auesomwang

    Assoc. Prof. Dr Chonticha Auesomwang

    • Gastroenterology & Hepatology
    Gastroenterology and Hepatology
  • Link to doctor
    Dr Sureeporn  Jangsirikul

    Dr Sureeporn Jangsirikul

    • Gastroenterology & Hepatology
    Gastroscopy and Colonoscopy, Gastroenterology and Hepatology, Colorectal Screening, Gastroesophageal Reflux Disease (GERD), Chronic Abdominal Pain, Gastrointestinal Bleeding, Elevated Liver Enzymes, Biofeedback Therapy, Esophageal Motility Disorders, Esophageal pH Study, Helicobacter pylori (H. pylori), Gastric Emptying Time, Colonic Transit Time, Manometry
  • Link to doctor
    Dr Panida Piyachaturawat

    Dr Panida Piyachaturawat

    • Gastroenterology & Hepatology
    Gastroscopy and Colonoscopy, Gastroenterology and Hepatology, Chronic Abdominal Pain, Chronic Constipation, Chronic and Acute Diarrhea, Endoscopic Retrograde Cholangiopancreatography (ERCP), Inflammatory Bowel Disease (IBD), Irritable Bowel Syndrome (IBS), Colorectal Screening, Endoscopic Ultrasound (EUS), Gastrointestinal Bleeding, Elevated Liver Enzymes, Viral Hepatitis, Non-alcoholic steatohepatitis (NASH), Enteroscopy, Fibroscan
  • Link to doctor
    Dr Penprapai Hongsrisuwan

    Dr Penprapai Hongsrisuwan

    • Gastroenterology & Hepatology
    Gastroenterology and Hepatology, Gastroscopy and Colonoscopy, Colorectal Screening, Gastroesophageal Reflux Disease (GERD), Irritable Bowel Syndrome (IBS), Chronic Abdominal Pain, Gastrointestinal Bleeding, Hemorrhoids, Viral Hepatitis, Elevated Liver Enzymes, Cirrhosis, Fatty Liver Disease
  • Link to doctor
    Assoc.Prof.Dr Sawangpong Jandee

    Assoc.Prof.Dr Sawangpong Jandee

    • Gastroenterology & Hepatology
    Gastroenterology and Hepatology
  • Link to doctor
    Dr Kittithat Tantitanawat

    Dr Kittithat Tantitanawat

    • Gastroenterology & Hepatology
    Gastroenterology and Hepatology, Pancreatic Cancer, Chronic Pancreatitis, Acute Pancreatitis, Metabolic Dysfunction - Associated Steatotic Liver Disease (MASLD), Obesity and Overweight, Colorectal Screening, Gastroesophageal Reflux Disease (GERD), Gastritis, Endoscopic Mucosal Resection (EMR)
  • Link to doctor
    Dr Uraiwan Simapichet

    Dr Uraiwan Simapichet

    • Gastroenterology & Hepatology
    Gastroenterology and Hepatology
  • Link to doctor
    Asst.Prof.Dr Siam Sirinthornpunya

    Asst.Prof.Dr Siam Sirinthornpunya

    • Gastroenterology & Hepatology
    Gastroenterology and Hepatology
  • Link to doctor
    Assoc.Prof.Dr Sathaporn Manatsathit

    Assoc.Prof.Dr Sathaporn Manatsathit

    • Gastroenterology & Hepatology
    Gastroenterology and Hepatology, Gastrointestinal Infection, Chronic Abdominal Pain, Chronic Constipation, Chronic and Acute Diarrhea, Diarrhea, Viral Hepatitis, Leaky Gut Syndrome, Liver Tumor, Elevated Liver Enzymes, Hemorrhoids, Inflammatory Bowel Disease (IBD), Irritable Bowel Syndrome (IBS), Dysphagia (Difficulty Swallowing)
  • Link to doctor
    Dr Thaninee Prasoppokakorn

    Dr Thaninee Prasoppokakorn

    • Gastroenterology & Hepatology
    Gastroenterology and Hepatology
  • Link to doctor
    Prof.Dr Sinn Anuras

    Prof.Dr Sinn Anuras

    • Gastroenterology & Hepatology
    Gastroenterology and Hepatology