บำรุงกระดูกด้วยแคลเซียมและวิตามินดี ดีอย่างไร? - Calcium and Vitamin D for Bone Health

บำรุงกระดูกด้วยแคลเซียมและวิตามินดี (Calcium and Vitamin D for Bone Health)

แคลเซียมและวิตามินดี มีบทบาทสำคัญในการบำรุงสุขภาพกระดูกและฟัน สารอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้ช่วยให้ฟันและกระดูกแข็งแรงสุขภาพดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระดูกสันหลัง ถ้าร่างกายได้รับแคลเซียมและวิตามินดีไม่เพียงพออาจนำไปสู่ภาวะกระดูกบางและเปราะ เพิ่มความเสี่ยงของโรคกระดูก

แชร์

ทำไมแคลเซียมและวิตามินดีถึงจำเป็นต่อสุขภาพกระดูก?

แคลเซียมและวิตามินดี มีบทบาทสำคัญในการบำรุงสุขภาพกระดูกและฟัน สารอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้ช่วยให้ฟันและกระดูกแข็งแรงสุขภาพดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระดูกสันหลัง

จะเกิดอะไรขึ้นหากร่างกายขาดแคลเซียมและวิตามินดี?

ถ้าร่างกายได้รับแคลเซียมและวิตามินดีไม่เพียงพออาจนำไปสู่ภาวะกระดูกบางและเปราะ เพิ่มความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน ทำให้กระดูกสันหลัง สะโพก และข้อมือแตกหักได้ง่าย วิธีการรักษาโรคกระดูกพรุน ได้แก่ การรับประทานยาและการปรับเปลี่ยนอาหาร การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง หรือการรับประทานผลิตภัณฑ์แคลเซียมและวิตามินดีเสริมจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอ ช่วงป้องกันและรักษาโรคกระดูกพรุน

อาหารและเครื่องดื่มอะไร ที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง?

อาหารและเครื่องดื่มแต่ละชนิดนั้นมีปริมาณแคลเซียมและวิตามินดีแตกต่างกันไป

อาหารและเครื่องดื่มที่มีปริมาณแคลเซียมสูง ได้แก่

  • ผลิตภัณฑ์จากนมวัว เช่น นม ชีส โยเกิร์ต และไอศครีม
  • ผักสีเขียว เช่น เคล คะน้า และบรอกโคลี
  • ถั่วและขนมปังบางชนิด
  • อาหารเสริมแคลเซียม เช่น น้ำผลไม้ ซีเรียล ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง

อาหารและเครื่องดื่มที่มีปริมาณวิตามินดีสูง ได้แก่

  • น้ำส้ม นม ที่เสริมด้วยวิตามินดี
  • ปลาทะเล เช่น แซลมอน ปลาทู
  • ปลาทูน่ากระป๋อง
  • ซีเรียลเสริมวิตามินดี
  • น้ำมันตับปลาค็อด

โดยปกติแล้วผิวหนังของคนเรายังสามารถผลิตวิตามินดีได้เองเมื่อได้รับแสงแดด แต่ไม่ควรได้รับแสงแดดมากเกินไป เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งโรคผิวหนังได้ 

จำเป็นต้องรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมหรือวิตามินดีหรือไม่?

ภาวะขาดวิตามินดีพบได้แพร๋หลายกับคนจำนวนมาก ก่อนรับประทาน ควรขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อนทุกครั้ง การตรวจระดับวิตามินดีในเลือด ทำได้ง่ายแพทย์สามารถให้คำแนะนำเรื่องประเภท ขนาด และเวลาที่ควรรับประทานผลิตภัณฑ์แคลเซียมหรือวิตามินเสริม ซึ่งมีทั้งแบบเป็นเม็ด แคปซูล และแบบน้ำ ยกตัวอย่าง เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมบางชนิดควรรับประทานเวลาที่ท้องว่าง แต่บางชนิดควรรับประทานพร้อมอาหาร

ปริมาณแคลเซียมและวิตามินดีที่ควรได้รับในแต่ละวันคือเท่าไร?

ปริมาณแคลเซียมและวิตามินดีที่ควรได้รับในแต่ละวันแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ก่อนรับประทาน จึงควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อประเมินปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกาย โดยหญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนจำเป็นต้องได้รับประมาณแคลเซียมสูงกว่าผู้ที่ยังมีประจำเดือน แต่ไม่ควรรับประทานแคลเซียมหรือวิตามินดีมากเกินไป เพราะอาจนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพ เช่น วิตามินดีเป็นพิษหรือภาวะแคลเซียมสูงในเลือด

ผลข้างเคียงของผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมอะไรบ้าง?

ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยได้แก่ อาการท้องผูกและปวดท้อง โดยสามารถแบ่งรับประทานแคลเซียมทีละน้อยแทนการรับประทานครั้งเดียวเพื่อบรรเทาอาการได้ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมยังเพิ่มความเสี่ยงของโรคนิ่วในไต

เผยแพร่เมื่อ: 25 มี.ค. 2024

แชร์

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

  • Link to doctor
    นพ. กวิน ตังธนกานนท์

    นพ. กวิน ตังธนกานนท์

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคไต
    ไตวายเฉียบพลัน, โรคไตอักเสบ, การบําบัดทดแทนหน้าที่ไตโดยการฟอกเลือด, โรคความดันโลหิตสูง, นิ่วในไตและทางเดินปัสสาวะ, การปลูกถ่ายไต, การกรองพลาสมา, การดูแลป้องกันไตเสื่อม, การติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ, โรคและความผิดปกติทางไต, โรคไตจากเบาหวาน, การฟอกเลือดทางหน้าท้อง, ความผิดปกติ แปรปรวนของสภาวะสารน้ำและเกลือแร่, ความผิดปกติของกระดูกจากโรคทางไต รวมทั้งกระดูกพรุน, โภชนบำบัดในโรคไต
  • Link to doctor
    ผศ.พญ. นภิสวดี  ว่องชวณิชย์

    ผศ.พญ. นภิสวดี ว่องชวณิชย์

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคไต
    ไตวายเฉียบพลัน, การป้องกันและรักษาโรคไตด้วยโภชนบำบัด, ความผิดปกติ แปรปรวนของสภาวะสารน้ำและเกลือแร่, โรคไตอักเสบ, การบําบัดทดแทนหน้าที่ไตโดยการฟอกเลือด, โรคความดันโลหิตสูง, นิ่วในไตและทางเดินปัสสาวะ, การปลูกถ่ายไต, การกรองพลาสมา, การดูแลป้องกันไตเสื่อม, การติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ, โรคกระดูกต่าง ๆ ที่เกิดจากไตทำงานผิดปกติ รวมทั้งกระดูกพรุน