ตรวจสมรรถภาพปอด รู้ทันโรคร้าย รับมือง่ายขึ้น
ปอด อวัยวะสำคัญของระบบทางเดินหายใจ หากปอดทำงานไม่ดี ย่อมส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าปอดของเรายังทำหน้าที่เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากเราต้องหายใจทุกวัน ความผิดปกติเล็กน้อยจึงอาจถูกมองข้าม ยิ่งเมื่อเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับปอด อาทิ หอบหืด ถุงลมโป่งพอง โรคปอดอุดกั้น หากไม่ได้รับการวินิจฉัยอย่างเหมาะสม ก็จะไม่สามารถวางแผนการดูแลและรักษาได้อย่างตรงจุด ตรงนี้เอง ที่การตรวจสมรรถภาพปอด จะเข้ามามีบทบาท ช่วยให้แพทย์และผู้ป่วยรับมือกับโรคได้ง่ายขึ้น
หายใจลำบาก หอบเหนื่อย เช็กปอดกันหน่อย
มาทำความรู้จักกับโรคระบบทางเดินหายใจที่สัมพันธ์กับการทำงานของปอดกันดีกว่า
- โรคหอบหืด ภาวะผิดปกติของปอด ผู้ป่วยอาจเริ่มไอหรือหายใจมีเสียงหวีดเมื่อออกกำลังกาย สูดอากาศที่มีสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ เชื้อรา หรือขนสัตว์ รวมถึงสารระคายเคืองต่อปอด เช่น อากาศเย็น ไวรัส และควันบุหรี่ สิ่งเหล่านี้กระตุ้นให้ทางเดินหายใจตีบเล็กลง อากาศผ่านเข้า-ออกได้ยาก ทำให้แน่นหน้าอก หายใจไม่ทัน ไอ หายใจมีเสียงหวีด
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลมและเนื้อปอด ทำให้หายใจลำบาก เพราะลมหายใจออกได้ไม่เต็มที่ เกิดจากการที่ทางเดินหายใจตีบแคบและมีเสมหะมาก พบได้บ่อยในผู้ที่สูบบุหรี่เป็นเวลานาน หรือได้รับสารระคายเคืองทางเดินหายใจอย่างต่อเนื่อง อาการทั่วไปคือ ไอเรื้อรัง มีเสมหะ หอบเหนื่อยง่าย โดยเฉพาะเวลาออกแรง และอาจแย่ลงเรื่อย ๆ หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม
- ถุงลมโป่งพอง เป็นส่วนหนึ่งของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เกิดจากถุงลมในปอดถูกทำลาย สูญเสียพื้นผิวปอดที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนก๊าซ ทำให้หายใจลำบากเพราะร่างกายรับออกซิเจนได้น้อยและขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกได้ไม่ดี ผู้ป่วยมักเริ่มมีอาการหอบเหนื่อย และอาการจะแย่ลงเรื่อย ๆ โดยไม่สามารถรักษาให้ปอดกลับมาเป็นปกติได้ แต่การตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้รักษาและดูแลคุณภาพชีวิตได้ดีขึ้น
- โรคปอดชนิดจำกัดการขยายตัว (Restrictive Lung Disease) พบได้ไม่บ่อย อาจพบได้ในกลุ่มโรคแพ้ภูมิตนเอง เช่น รูมาตอยด์ (Rheumatoid Lung) หรือแม้กระทั่งในโรคปอดอักเสบจากเชื้อโควิด
ตรวจสมรรถภาพปอด ช่วยให้รู้อะไรบ้าง
การตรวจสมรรถภาพปอดแบบสมบูรณ์ (Complete TFT) คือ การตรวจประเมินการทำงานของปอดอย่างละเอียดในทุกด้าน ช่วยให้แพทย์เห็นภาพรวมของสุขภาพปอดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่
- Spirometry – ตรวจวัดปริมาณอากาศที่หายใจเข้า-ออก และความเร็วของลมที่หายใจ ช่วยคัดกรองโรคทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ถุงลมโป่งพอง หรือปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
- Lung Volumes – วัดปริมาตรอากาศในปอดทุกส่วน รวมถึงปริมาณลมที่เหลือค้างในปอดแม้หายใจออกสุด ช่วยประเมินโรคที่เกี่ยวกับโครงสร้างหรือขนาดของปอด เช่น ปอดแฟบ หรือปอดขยายเกิน
- DLCO (Diffusing Capacity for Carbon Monoxide) – ตรวจดูประสิทธิภาพของถุงลมในการแลกเปลี่ยนก๊าซกับเลือด โดยเฉพาะออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ ใช้ตรวจโรคที่เกี่ยวกับเนื้อเยื่อปอดในชั้นลึก เช่น โรคพังผืดในปอด
การตรวจนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการหายใจผิดปกติ หรือมีความเสี่ยงโรคปอด ช่วยให้วินิจฉัยและวางแผนการรักษาได้แม่นยำมากขึ้น
ประโยชน์ของการตรวจสมรรถภาพปอดแบบสมบูรณ์ (Complete PFT)
การตรวจ Complete PFT ช่วยให้แพทย์เข้าใจการทำงานของปอดได้ลึกขึ้นและแม่นยำยิ่งขึ้น โดยมีประโยชน์หลัก ๆ ดังนี้
- ช่วยวินิจฉัยโรคระบบทางเดินหายใจอย่างถูกต้อง เช่น หอบหืด หรือ COPD
- ใช้ติดตามอาการและประเมินผลการรักษาในระยะยาว
- ช่วยวางแผนการรักษา หรือประเมินความพร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- แยกแยะได้ว่าเป็นโรคปอดแบบอุดกั้น (หายใจออกลำบาก) หรือแบบจำกัด (ขยายปอดได้น้อย)
ใครบ้างที่ควรเข้ารับการตรวจ
- ผู้ที่มีอาการหายใจลำบาก หอบเหนื่อยเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ หรือทำงานในที่มีฝุ่น ควัน หรือสารเคมี
- ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง เช่น ปอดอักเสบ หอบหืด พังผืดในปอด หรือ COPD
- ผู้ที่ต้องประเมินสมรรถภาพปอดก่อนการผ่าตัดใหญ่ เช่น ผ่าตัดหัวใจหรือทรวงอก

การตรวจนี้ไม่เจ็บ ไม่ซับซ้อน และให้ข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ดูแลสุขภาพปอดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
