Wellness 4

ถอดวิสัยทัศน์ จากยุค "รักษาโรค" สู่การ "สร้างสุขภาวะยั่งยืน" ภารกิจที่ต้องร่วมมือกัน

Wellness หรือสุขภาวะ ประกอบด้วย 8 มิติ ได้แก่ ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา สิ่งแวดล้อม การเงิน และจิตวิญญาณ ซึ่งในปัจจุบัน ประเทศไทยยังคงให้ความสำคัญกับมิติด้านร่างกายเป็นหลัก

แชร์

ถอดวิสัยทัศน์ จากยุค "รักษาโรค" สู่การ "สร้างสุขภาวะยั่งยืน" ภารกิจที่ต้องร่วมมือกัน

Gemini Generated Image Mf8f3hmf8f3hmf8f

เมื่อพูดถึง สุขภาพ หลายคนมักนึกถึงเรื่องของโรคหรือความเจ็บป่วย ภาพในความคิดมักเน้นไปที่ การรักษาอาการหรือจัดการสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์ให้กลับมาดีขึ้น ซึ่งเป็นมุมมองด้านสุขภาพเชิงรับ เน้นแก้ปัญหาเป็นหลัก

แต่ในปัจจุบัน มีเรื่องใหม่ที่ผู้คนกำลังสนใจเป็นอย่างมาก นั่นคือ สุขภาวะ หรือ Wellness ซึ่งยังเป็นคำที่แม้แต่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่ได้ให้คำจำกัดความ หรือให้ความหมายที่ชัดเจน แต่สามารถแปลได้อย่างกว้าง ๆ ว่า สุขภาวะ คือแนวคิดเชิงบวกเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพให้ดีตั้งแต่ก่อนที่จะเจ็บป่วย โดยเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี เน้นการมีสมดุลของชีวิตทั้งในด้าน ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ เพื่อให้สามารถดูแลชีวิตของผู้คนได้อย่างยั่งยืน

ในวันนี้ พญ.จามรี เชื้อเพชระโสภณ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลเมดพาร์ค ให้เกียรติมาพูดคุยอย่างลึกซึ้งในเรื่องของสุขภาวะซึ่งเป็นโอกาสใหม่ของประเทศไทยที่ควรให้ความสำคัญ ควบคู่ไปกับการเน้นพัฒนาเรื่องสุขภาพ และได้แสดงวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาลเมดพาร์คที่ได้นำร่องวางรากฐานด้านสุขภาวะ เพื่อสนับสนุนให้ผู้คนมีสุขภาวะที่ดีตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นมีชีวิต ซึ่งจะทำได้ด้วยวิธีอะไรบ้าง ขอเชิญทุกท่านอ่านไปพร้อมกัน

สุขภาวะ คือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจะไปถึงเรื่องของสุขภาพ

“Wellness หรือสุขภาวะ ประกอบด้วย 8 มิติ ได้แก่ ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา สิ่งแวดล้อม การเงิน และจิตวิญญาณ ซึ่งในปัจจุบัน ประเทศไทยยังคงให้ความสำคัญกับมิติด้านร่างกายเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ยังมีมิติอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะด้าน อารมณ์ จิตวิญญาณ สิ่งแวดล้อม และ การเงิน ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างระบบ Wellness ที่สมบูรณ์และยั่งยืนมากขึ้น”

แม้ในปัจจุบันประเทศไทยจะมีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสามารถสูง และมีระบบบริการสุขภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล แต่ระบบบริการสุขภาพของประเทศไทยนั้น ยังคงเน้นเรื่องของการรักษาเมื่อเกิดโรค มากกว่าการส่งเสริมสุขภาพหรือป้องกันโรคล่วงหน้า 

พญ.จามรี มองว่า ประเทศไทยยังมีโอกาสในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพใหม่แบบองค์รวม วางรากฐานในการดูแลสุขภาวะที่ดีให้แก่ประชาชนตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องของการรักษาความเจ็บป่วยของประชาชนได้อย่างมหาศาลในระยะยาว ที่สำคัญ ประเทศไทยมีจุดแข็งด้านวัฒนธรรม การบริการ และทรัพยากรธรรมชาติ ที่สามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาวะได้อย่างมีศักยภาพ

“ในปัจจุบัน เมื่อเราจะให้ความหมายของ Wellness หรือสุขภาวะ มักจะเป็นไปในแนวทางเดียวกันนั่นคือ สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่จะถึงคำว่าสุขภาพ เพราะคำว่าสุขภาพคือการมองว่าเกิดโรคขึ้นแล้วจึงรักษา แต่สุขภาวะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนสุขภาพไกลมาก จนแทบสามารถสรุปได้เลยว่า ถ้าหากคุณดูแลสุขภาวะได้ดีตั้งแต่เริ่ม เรื่องของสุขภาพคุณไม่ต้องห่วงเลย เพราะสุขภาพของคุณจะดีแน่นอน”

ทุกคนต้องร่วมมือสร้างความเข้าใจว่า สุขภาวะของประชาชน เป็นเป้าหมายระยะยาวที่คุ้มค่า

“การจัดการเรื่องต้นทุนในการใช้พัฒนาเรื่องของสุขภาวะของประชาชนภายในประเทศ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเกือบทุกประเทศในโลกล้วน มุ่งเน้นการลงทุนกับการดูแลเรื่องสุขภาพกันมาก่อนทั้งนั้น”

สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ระบบสุขภาวะของประชาชนภายในประเทศแข็งแรงและเกิดขึ้นจริงได้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า จำเป็นจะต้องมีการจัดสรรต้นทุนด้วยมุมมองใหม่ โดยจำเป็นจะต้องให้ทุก ๆ คนที่มีส่วนร่วมมีความเข้าใจว่า นี่คือเรื่องสำคัญและเป็นเป้าหมายระยะยาวของประเทศ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะนำมาซึ่งความท้าทายหลากหลายประการ ทั้งในด้านภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ การขาดแคลนบุคลากรดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัยที่ยังไม่ทั่วถึง 

พญ.จามรี จึงมองว่า การส่งเสริมสุขภาวะที่ดีให้แก่ประชาชนนั้น จะช่วยให้ผู้สูงวัยในวันข้างหน้า สามารถดูแลตนเองได้ดีขึ้น มีชีวิตที่มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น และสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายของระบบสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพอย่างเห็นผลได้ในระยะยาว เช่น โครงการ Healthier Choice Symbol ของประเทศสิงคโปร์ ที่มีการใช้สัญลักษณ์บนผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อแสดงว่าเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ พร้อมทั้งมีมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น การลดภาษี การให้สิทธิประโยชน์กับผู้ผลิต และการให้คะแนนสะสมแก่ผู้บริโภค ผลลัพธ์ที่ได้คือการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรม และยังช่วยกระตุ้นให้ภาคเอกชนพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น

“เรื่องของสุขภาวะนั้น เป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญมากของประเทศ และเป็นการมองภาพรวมในระยะยาว ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทย ที่ค่อนข้างคุ้นชินกับสิ่งที่จับต้องและเห็นผลในระยะเวลาอันสั้น ในขณะที่โครงการบางอย่างจากบางประเทศนั้น เป็นโครงการที่ต้องใช้เวลายาวนานนับ 10 – 20 ปีจึงจะเห็นผล แต่เขาสามารถทำได้”

Nia Global Innovation Forum 2025   3

ดูแลสุขภาวะตั้งแต่ก่อนเริ่มวันแรกของชีวิต เป้าหมายด้านสุขภาวะ ที่เมดพาร์คได้เริ่มลงมือทำแล้ว

“เมดพาร์ค คือโรงพยาบาลที่ออกแบบโดยแพทย์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อมอบการรักษาที่ดีที่สุด แน่นอนว่า จุดมุ่งเน้น 80-90% ของเราในตอนนี้ คือการรักษาความเจ็บป่วยอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ได้มองเรื่องของสุขภาวะ และเราได้เริ่มลงมือทำไปแล้วในบางเรื่อง เป็นการวางรากฐานการเสริมสร้างสุขภาวะในอนาคต”

หนึ่งในสิ่งที่โรงพยาบาลเมดพาร์ค ได้เริ่มลงมือทำไปแล้วสำหรับการวางรากฐานเรื่อง สุขภาวะ นั่นคือการเปิดตัว ศูนย์เวชศาสตร์จีโนม ซึ่งเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับเทรนด์สำคัญด้านสุขภาพในอนาคต ที่เชื่อว่าเทคโนโลยีการถอดรหัสพันธุกรรมนั้นจะ สามารถพัฒนาจนบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพของคน ได้มากกว่าที่คิด ซึ่งพญ. จามรี มองว่า นี่คือการลงทุนกับเทคโนโลยีครั้งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้คนสามารถตรวจคัดกรองหาปัจจัยเสี่ยง หรือความผิดปกติจากพันธุกรรมได้แล้วนั้น ยังช่วยให้ผู้คนสามารถวางแผนสุขภาวะของบุตรหลาน ได้ตั้งแต่ก่อนเริ่มวันแรกของชีวิตอีกด้วย

“รู้อะไรก็ไม่สู้ ‘รู้งี้...’ ถ้าเราสามารถรู้ความเสี่ยงของชีวิต ตั้งแต่ก่อนที่เราจะเกิดมา เราจะสามารถวางแผนเรื่องพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเด็กได้ตั้งแต่หลังจากกินนมแม่เลย ซึ่งถ้าทุกอย่างถูกวางแผนที่เหมาะสมตั้งแต่ตรงนั้น เขาจะสามารถป้องกันโรคหรือความเจ็บป่วยได้มากมายในอนาคต ซึ่งนั่นเป็นความหวังของเราที่อยากสร้างประชากรที่มีสุขภาพที่ดีตั้งแต่ก่อนที่เขาจะลืมตาใช้ชีวิต และต่อไปเราจะไม่ต้องมาพูดคำว่า รู้งี้ กับเรื่องสุขภาพ เพราะเราจะ ‘รู้แล้ว’ ได้จริง ๆ”

Wellness 1

เมดพาร์ค โรงพยาบาลที่ใส่ใจ Wellness ของทุกชีวิต

“นอกจากเรื่องเทคโนโลยีแล้ว เรื่องของสภาพแวดล้อมก็สำคัญต่อสุขภาวะ ที่เมดพาร์คเราจึงใส่ใจกับสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีเช่นการมีต้นไม้ให้เห็นตั้งแต่เข้ามาในบริเวณโรงพยาบาล การทำให้อากาศภายในโรงพยาบาลสะอาด มีปริมาณฝุ่นละอองน้อยมาก สำหรับผู้รับบริการและผู้ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล”

อีกตัวอย่างที่ โรงพยาบาลเมดพาร์ค ได้ดำเนินการตั้งแต่เริ่มเปิดทำการมาคือความพยายามสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้แก่กลุ่มแพทย์ ซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญมากของโรงพยาบาลและเป็นกลุ่มบุคลากรที่มีความเครียดสูงที่สุดกลุ่มหนึ่ง  เราเชื่อว่า การมีสุขภาวะในมิติด้านกายภาพและจิตใจจะช่วยให้ผู้คนสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและจะช่วยให้คุณหมอทุกคนสามารถดูแลรักษาคนไข้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้แก่

มีการจัดสรรพื้นที่ให้แพทย์ได้พักผ่อนหย่อนใจ มีพื้นที่เล่นกีฬาเบาๆ มีบริการดูแลเรื่องอาหาร

ในส่วนของบุคลากรภายในโรงพยาบาล มีบริการตรวจสุขภาพเชิงป้องกัน การให้คำปรึกษาด้านจิตใจเป็นรายบุคคล และมีการจัดตั้งชมรม ต่างๆ เพื่อสนับสนุนด้านการออกกำลังกายและการพักผ่อน  ซึ่งในอนาคต พญ.จามรีได้กล่าวว่า โรงพยาบาลมีแผนที่จะขยายการดูแลบุคลากรภายในโรงพยาบาลไปสู่มิติของสุขภาวะในด้านอารมณ์และสังคมให้มากขึ้น เช่นการจัดกิจกรรมกลุ่มเพื่อสร้างความสัมพันธ์ภายในและร่วมกับชุมชนภายนอก

Wellness 3

สำหรับผู้ป่วยและผู้มารับบริการอื่นๆ ทางโรงพยาบาลได้ขยายบริการด้านการเสริมสร้างสุขภาวะขึ้นโดยเปิดบริการ คลินิก Well-Healing ที่โครงการ One Bangkok

“เมดพาร์คเริ่มวางรากฐานเรื่องสุขภาวะ ด้วยความตั้งใจที่อยากจะเป็น Lifetime-Partner เป็นเพื่อนผู้เคียงข้างในทุกช่วงเวลาของทุกคน ที่ไม่ใช่แค่พร้อมดูแลรักษาคุณเมื่อเจ็บป่วย แต่อยากช่วยให้คุณมีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืนตลอดชีวิต”

บทความโดย

  • จามรี เชื้อเพชระโสภณ
    จามรี เชื้อเพชระโสภณ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลเมดพาร์ค

เผยแพร่เมื่อ: 18 พ.ย. 2025

แชร์