“ช้ากว่านี้ เนื้อสมองอาจตาย”
คนไข้แชร์ประสบการณ์ สโตรก รักษาทันเวลา
“ลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดสมอง หากมาโรงพยาบาลที่พร้อม รักษาไว นอกจากช่วยชีวิต ยังรักษาคุณภาพชีวิตเราไว้ได้ด้วย”
สโตรก หรือ โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน เป็นหนึ่งในโรคที่มักมีอาการปุบปับฉับพลัน เมื่อเกิดขึ้นนาฬิกาชีวิตก็เริ่มนับถอยหลัง การไปถึงมือหมอ ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเร่งด่วนที่สุด คือกุญแจสำคัญ
คุณเกด - ผู้ป่วยวัย 49 ปี แชร์ประสบการณ์ป่วยเป็นสโตรก ในวันที่ตั้งใจมาทำงานตามปกติ แต่บางอย่างกลับไม่ปกติ เธอไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เหมือนทุกที
อยู่ ๆ ก็ลืมวิธีแปรงฟัน…
เริ่มมาจากเช้าวันหนึ่ง คุณเกดตื่นขึ้นมาเพื่ออาบน้ำไปทำงานตามปกติ แต่แล้วเธอกลับไม่รู้วิธีแปรงฟันเอาเสียดื้อ ๆ ใช้เวลาพักใหญ่ ๆ ทีเดียวกว่าจะจัดแจงตัวเองได้
“ปัญหาต่อมาคือ เมื่อมาที่รถ ก็ไม่รู้อีกว่าจะต้องปลดล็อกรถยังไง นึกไม่ออก เดินวนไปวนมาอยู่นานเลยค่ะ พอขึ้นรถได้ โชคดีมากที่เราไม่ลืมวิธีขับรถ ก็ขับรถมาทำงานได้อย่างราบรื่น แต่แน่นอนว่าเรารู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติแล้ว เพราะตอนจะออกจากรถ ยังต้องนึกวิธีเปิดประตูอยู่นาน”
คุณเกดตัดสินใจมาพบแพทย์ที่ คลินิกประสาทวิทยา โรงพยาบาลเมดพาร์ค แต่แล้วก็ต้องพบกับความผิดปกติที่ไม่คาดคิดอีกครั้ง พยาบาลได้ซักถามข้อมูล แต่ตนเองกลับสื่อสารออกไปไม่ได้
“ตอนนั้นคิดได้นะว่าจะพูดอะไร แต่มันเปล่งเสียงออกมาไม่ได้ค่ะ พยาบาลที่เคาน์เตอร์เค้าจับสังเกตได้ไวมาก ๆ ว่านี่น่าจะเป็นอาการทางสมอง เลยรีบแจ้งคุณหมออุดมเพื่อเข้าตรวจโดยด่วน คุณหมอตรวจอาการ ใช้เวลาไม่นานก็สั่งให้ทำ MRI เลย”
ลิ่มเลือดอุดตัน ทุกวินาทีสำคัญต่อชีวิต
ผล MRI แสดงให้เห็นว่ามี ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดสมอง มีเนื้อสมองเสียหายบางส่วน และสมองซีกซ้ายส่วนใหญ่กำลังขาดเลือด รอช้าไม่ได้ น.อ.นพ. อุดม สุทธิพนไพศาล ร.น. แพทย์เฉพาะทางด้านโรคหลอดเลือดสมองและรังสีร่วมรักษาระบบประสาท จึงตัดสินใจรักษาด้วยวิธีใส่สายสวนหลอดเลือดสมอง โดยได้ประสานงานเตรียมห้องสำหรับทำหัตถการ อุปกรณ์ และทีมบุคลากรอย่างรวดเร็ว
“คุณหมอสั่งเตรียมทุกอย่างรวดเร็วมากค่ะ และโชคดีที่เราสามารถเซ็นเอกสารยินยอมทำหัตถการด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องรอ การรักษาจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว พอพยาบาลเข็นเตียงเราจากห้อง MRI เข้าไปในห้องสวนหลอดเลือด คุณหมอก็สามารถลงมือทำหัตถการได้ทันที และนำเอาลิ่มเลือดที่อุดตันอยู่ออกมาได้อย่างรวดเร็วค่ะ”
หลังจากรักษาเสร็จและตื่นขึ้นมา คุณเกดสามารถกลับมาสื่อสารได้ สามารถพูดคุย เล่ารายละเอียดต่าง ๆ กับเพื่อนร่วมงานที่แวะมาเยี่ยมเยียน ได้ทดสอบทักษะภาษาต่างประเทศของตัวเองว่ายังสามารถพูดได้ และอยู่ห้อง ICU เพียง 1 คืนเท่านั้น
“ระหว่างนั้นจะมีคุณหมอมาดูแลเยอะมากค่ะ เพราะที่นี่ไม่ได้ทำแค่รักษาหายแล้วจบ แต่จะช่วยกันหาสาเหตุของการมีลิ่มเลือดอุดตัน ว่าคืออะไร เพราะอายุของเราก็ยังไม่ใช่ผู้สูงวัยที่เป็นกลุ่มเสี่ยง แถมไม่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคเรื้อรัง โรค NCDs ซึ่งตอนนั้นมีทั้งหมอหัวใจ หมอต่อมไร้ท่อ หมอโรคเลือด หมอเวชศาสตร์ฟื้นฟูที่เข้ามาดูเคสค่ะ”
หลังจากได้รับการรักษาและดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์และพยาบาล คุณเกดสามารถกลับมาใช้ชีวิต ทำงานได้ตามปกติ และยังคงมีนัดตรวจติดตามอาการกับคุณหมออุดม เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีก
“เหตุการณ์นี้ทำให้เราได้รู้ว่า คนเป็นสโตรกอาจไม่ได้แสดงอาการหน้าเบี้ยว หรือแขนขาอ่อนแรงเท่านั้น แต่อาจมีความผิดปกติอื่น ๆ ที่หลายคนไม่สังเกต เช่น ปัญหาการสื่อสาร หรือการจดจำ ที่สำคัญคือเวลา ที่เริ่มนับถอยหลังตั้งแต่เริ่มมีอาการ หากรับการรักษาไม่ทัน ชีวิตเราอาจเปลี่ยนไปเลย สมองเสียหายมาก พิการ ไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ จึงรู้สึกว่าตัวเองโชคดี ที่มาถูกที่ถูกเวลาค่ะ”
มีทีมที่ครบ อุปกรณ์พร้อม เตรียมการได้เร็ว เพิ่มโอกาสสำเร็จ
นายแพทย์อุดม แพทย์เจ้าของไข้ของคุณเกด ได้เล่าเหตุการณ์ในวันที่คุณเกดเดินเข้ามาที่คลินิกศัลยกรรมประสาทว่า
“ผู้ป่วยเคสนี้มีอายุกลาง ๆ ไม่มีโรคประจำตัวหรือปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองครับ มาพร้อมกับปัญหาเรื่องการพูด นอกนั้นปกติ ซึ่งพยาบาลที่เคาน์เตอร์สังเกตได้เลยส่งเข้ามาตรวจทันที ตอนหลังผมได้ไปเช็กกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล พบว่าผู้ป่วยสามารถขับรถมาจอดเข้าซองได้ตามปกติ การเดินไม่มีปัญหาเลย”
หลังจากการตรวจเบื้องต้น นายแพทย์อุดมคาดว่าน่าจะเกิดรอยโรคที่สมองส่วนที่ควบคุมการสื่อสาร จึงรีบส่งผู้ป่วยเข้าตรวจ MRI โดยเลือกใช้เทคนิคที่เจาะจงดูสาเหตุจากโรคหลอดเลือดสมอง และพบว่าสมองซีกซ้ายขาดเลือดเป็นบริเวณกว้าง พบหลอดเลือดสมองขนาดใหญ่อุดตัน จำเป็นต้องรักษาด้วยการสวนหลอดเลือดเพื่อนำลิ่มเลือดออกมาโดยเร็ว
“ผมได้แจ้งทีมบุคลากรห้องสวนหลอดเลือดที่แผนกห้องผ่าตัด แจ้งวิสัญญีแพทย์ เพื่อเตรียมทุกอย่างให้พร้อม เมื่อผู้ป่วยออกจากห้อง MRI ก็สามารถนำตัวส่งไปที่ห้องสวนหลอดเลือดได้เลยครับ”
วิธีการสวนหลอดเลือด จะทำโดยใช้อุปกรณ์สายสวนสอดเข้าไปในหลอดเลือด ผ่านบริเวณขาหนีบ ใส่ลวดนำทางไปที่ตำแหน่งหลอดเลือดอุดตัน ฉีดสีตรวจหลอดเลือดสมองข้างซ้าย พบว่ามีการอุดตัน จึงใช้สายสวนสำหรับดูดลิ่มเลือดออก ซึ่งในเคสนี้ทำเพียงครั้งเดียวก็ได้ลิ่มเลือดออกมา เมื่อแพทย์ทำการฉีดสีเพื่อเช็คการไหลเวียนของหลอดเลือดซ้ำ พบว่าเลือดกลับมาไหลเวียนได้ตามปกติแล้ว
“เมื่อผู้ป่วยฟื้นจากการดมยาสลบ ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี พูดได้คล่องขึ้น จำเหตุการณ์ได้ เล่าให้ฟังได้ดี เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ผมภูมิใจ ดีใจกับผู้ป่วยและญาติด้วยครับ”
เคสของคุณเกด แสดงให้เห็นคุณค่าของเวลาที่เป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยสโตรก ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร โอกาสรักษาหายกลับมาเป็นปกติจะยิ่งลดลงเรื่อย ๆ เคสนี้จึงเป็นเคสที่ประสบความสำเร็จด้วยปัจจัยของเวลา ความแม่นยำในการตรวจเจอความผิดปกติตั้งแต่เจ้าหน้าที่พยาบาล ความรวดเร็วในการตัดสินใจและการรักษาของแพทย์ และความพร้อมของทีมบุคลากร สถานที่ และอุปกรณ์