เลือกหัวข้อที่อ่าน
- โรคต้อหิน คืออะไร
 - โรคต้อหิน มีอาการอย่างไร
 - ต้อหิน เกิดจากอะไร
 - ปัจจัยเสี่ยงโรคต้อหิน
 - โรคต้อหิน มีวิธีการการวินิจฉัยอย่างไร
 - โรคต้อหิน มีวิธีการรักษาอย่างไร
 - การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและการรักษาตัวที่บ้าน
 
โรคต้อหิน
โรคต้อหิน มักมีสาเหตุจากความดันในตาสูงผิดปกติ เทำให้เกิดความเสียหายของเส้นประสาทตา จนอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นหรือตาบอดได้ ผู้ที่เป็นโรคต้อหินอาจไม่ทันสังเกตเห็นสัญญาณของอาการจนโรคพัฒนาไปสู่ขั้นรุนแรง ผลที่ร้ายแรงของภาวะนี้ไม่สามารถแก้ไขให้กลับเป็นปกติได้ ดังนั้นการตรวจตาอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกัน ควบคุม และชะลอการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร
โรคต้อหิน มีอาการอย่างไร
สัญญาณและอาการของโรคต้อหินแตกต่างกันตามชนิดและความรุนแรง
โรคต้อหินมุมเปิด
ผู้ที่เป็นโรคต้อหินประเภทนี้มักมีอาการดังต่อไปนี้
- จุดบอดเป็นหย่อม ๆ ที่บริเวณรอบข้าง หรือส่วนกลางของการมองเห็นซึ่งปกติจะเกิดขึ้นในดวงตาทั้งสองข้าง
 - หรือมองเห็นเฉพาะสิ่งที่อยู่ด้านหน้า ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่บริเวณขอบด้านข้างของสายตาได้
 
โรคต้อหินเฉียบพลัน
ผู้ที่เป็นต้อหินมุมปิดเฉียบพลันอาจมีอาการดังต่อไปนี้
- ปวดหัวอย่างรุนแรง
 - ปวดตา
 - คลื่นไส้ อาเจียน
 - ตาแดง
 - มองเห็นภาพซ้อน
 - การเห็นรัศมีรอบดวงไฟ
 
ต้อหินทำให้ตาบอดได้หากไม่ได้รับการรักษา ทั้งนี้ร้อยละ 15 ของผู้ที่ได้รับการรักษาต้อหินมีโอกาสตาบอดได้ ดังนั้นควรไปพบแพทย์ทันทีหากพบอาการดังกล่าวข้างต้น
ต้อหิน เกิดจากอะไร
ต้อหินเกิดจากความดันที่เพิ่มขึ้นในตา ทำให้เส้นประสาทตาถูกทำลาย และทำให้น้ำหล่อเลี้ยงลูกตาไหลผ่านภายในดวงตาและไม่สามารถระบายออกได้ หรือระบายออกอย่างไม่เหมาะสม ทำให้เกิดน้ำขังในลูกตาและเกิดความดันสูงในลูกตา ทั้งนี้พันธุกรรมถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดภาวะดังกล่าวได้
ประเภทของโรคต้อหิน ได้แก่ :
- โรคต้อหินมุมเปิด
ต้อหินมุมเปิดเป็นโรคต้อหินที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมุมของบริเวณที่ระบายน้ำลูกตา ที่สร้างขึ้นโดยกระจกตาและม่านตายังคงเปิดอยู่ อาการของโรคต้อหินประเภทนี้จะพัฒนาอย่างช้า ๆ และอาจก่อให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นของดวงตาอย่างช้า ๆ - โรคต้อหินมุมปิด
โรคต้อหินมุมปิดมีสาเหตุมาจากอาการม่านตาบวมที่ปิดกั้นหรือทำให้มุมระบายน้ำมีลักษณะแคบลง โรคต้อหินมุมปิดมักเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและถือเป็นเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ - โรคต้อหินมุมเปิดเรื้อรังชนิดที่มีความดันลูกตาปกติ
โรคต้อหินชนิดนี้เกิดขึ้นเมื่อเส้นประสาทตาได้รับความเสียหายและนำไปสู่การขาดเลือดไปเลี้ยงเส้นประสาทตา - โรคต้อหินในเด็ก
มักเกิดขึ้นจากการอุดตันของท่อระบายน้ำหล่อเลี้ยงลูกตา หรือภาวะอื่น ๆ ทางการแพทย์ทำให้เกิดต้อหินในทารกและเด็ก ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่แรกเกิด - โรคต้อหินเม็ดสี
เกิดจากการอุดตันของเม็ดสีจากม่านตาในช่องระบายน้ำลูกตาที่ก่อให้เกิดการชะลอและปิดกั้นของเหลวไม่ให้ระบายออก และนำไปสู่ความดันที่เพิ่มขึ้นในตา 
ปัจจัยเสี่ยงโรคต้อหิน
มีปัจจัยหลายประการที่อาจทำให้เกิดโรคต้อหินซึ่งอาจรวมถึง
- ความดันลูกตา
 - ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
 - ผู้ที่มีประวัติสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคต้อหิน
 - เงื่อนไขทางการแพทย์บางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง
 - กระจกตาบางในบริเวณตรงกลาง
 - ภาวะสายตาสั้นหรือสายตายาวมาก
 - การบาดเจ็บที่ดวงตาหรือการผ่าตัดตาบางชนิด
 - การใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์
 
โรคต้อหิน มีวิธีการการวินิจฉัยอย่างไร
แพทย์อาจทำการตรวจตาโดย
- การวัดความดันลูกตา
 - การตรวจขยายม่านตาและการทดสอบภาพถ่ายทางการแพทย์เพื่อทดสอบความเสียหายของเส้นประสาทตา
 - การวัดลานสายตาเพื่อตรวจสอบบริเวณที่สูญเสียการมองเห็น
 - การตรวจวัดความหนาของกระจกตา
 - การตรวจดูมุมตา
 
โรคต้อหิน มีวิธีการรักษาอย่างไร
ความเสียหายที่เกิดจากต้อหินไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่จุดมุ่งหมายของการรักษาคือเพื่อลดความดันตา ซึ่งอาจรวมถึงวิธีการดังต่อไปนี้
- ยาหยอดตา
- พรอสตาแกลนดิน
 - เบต้าบล็อคเกอร์
 - Alpha-adrenergic agonists
 - สารยับยั้งคาร์บอนิกแอนไฮเดส
 - สารยับยั้งโรไคเนส
 - Milotic หรือ cholinergic agents
 
 - ยารับประทาน
แพทย์อาจสั่งยารับประทานเพื่อลดความดันตา ทั้งนี้ยาอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น ปัสสาวะบ่อย อาการชาที่นิ้วมือและนิ้วเท้า ภาวะซึมเศร้า ปวดท้องและนิ่วในไต - การผ่าตัดและการบำบัดอื่น ๆ
แพทย์อาจแนะนำขั้นตอนบางอย่างตามสภาวะอาการของคนไข้แต่ละบุคคล ได้แก่- การรักษาด้วยเลเซอร์
 - การผ่าตัดด้วนวิธี Filtering
 - การผ่าตัดใส่สายระบาย
 - การผ่าตัดต้อหินแผลเล็ก
 
 - การรักษาต้อหินมุมปิดแบบเฉียบพลัน
สำหรับผู้ป่วยต้อหินชนิดมุมปิดเฉียบพลันจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการลดความดันในตา ทั้งนี้แพทย์อาจสั่งจ่ายยาบางชนิดหรือทำหัตถการบางอย่างรวมทั้งเลเซอร์หรือการผ่าตัด 
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและการรักษาตัวที่บ้าน
ผู้ที่เป็นโรคต้อหินควรทำดังต่อไปนี้
- ทานอาหารที่มีประโยชน์
 - ออกกำลังกายอย่างปลอดภัย
 - จำกัดการบริโภคคาเฟอีน
 - ดื่มน้ำหรือของเหลวอื่น ๆ บ่อยๆ
 - นอนยกศีรษะ
 - ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
 
เตรียมการสำหรับการนัดหมาย
ก่อนการนัดหมายคนไข้อาจเตรียมข้อมูลดังต่อไปนี้
- อาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
 - ยาทั้งหมดที่ใช้อยู่
 - ปัญหาตาที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
 - ประวัติครอบครัวที่เป็นโรคต้อหิน
 - การทดสอบโรคต้อหินที่เคยทำก่อนหน้า
 - คำถามที่อยากถามคุณหมอ
 
ในระหว่างการปรึกษา แพทย์อาจถามคำถามบางอย่างรวมถึงข้อมูลเช่น
- ความรู้สึกไม่สบายตา
 - สัญญาณและอาการที่เกิดขึ้น
 - ประวัติสมาชิกครอบครัวที่เป็นโรคต้อหิน
 - การวินิจฉัยโรคต้อหินก่อนหน้านี้
 - ยา วิตามิน หรืออาหารเสริมที่คุณกำลังรับประทานอยู่