สุขภาพจิตคืออะไร? ทำไมสุขภาพจิตจึงสำคัญต่อชีวิต - Mental Health: What is, Why Is It Important for Your Life

สุขภาพจิต (Mental Health)

สุขภาพจิต คือสภาวะรวมของอารมณ์ ความรู้สึก และจิตใจ สุขภาพจิตที่ดีส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงและมีความสุข ผู้ที่มีสุขภาพจิตที่ดีสามารถสานสัมพันธ์กับคนรอบข้างและรู้จักปรับตัว ยืดหยุ่นกับการเปลี่ยนแปลงหรือความยากลำบากได้ดี

แชร์

สุขภาพจิตคืออะไร? ทำไมสุขภาพจิตจึงสำคัญต่อชีวิต

สุขภาพจิต คือสภาวะรวมของอารมณ์ ความรู้สึก และจิตใจ สุขภาพจิตที่ดีส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงและมีความสุข ผู้ที่มีสุขภาพจิตที่ดีสามารถสานสัมพันธ์กับคนรอบข้างและรู้จักปรับตัว ยืดหยุ่นกับการเปลี่ยนแปลงหรือความยากลำบากได้ดี อย่างไรก็ตามอาการเจ็บป่วยทางจิตใจอาจนําไปสู่ความทุกข์ทางใจ พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

สาเหตุของปัญหาสุขภาพจิต: ปัจจัยที่ควรรู้เพื่อการดูแลที่เหมาะสม

ปัญหาสุขภาพจิต ไม่ได้เกิดขึ้นจากสาเหตุเดียว แต่เกิดจากการรวมกันของหลายปัจจัย ทั้งทางชีวภาพ พันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม การเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้สามารถป้องกันและดูแลสุขภาพจิตได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น

1. ยีนและสารเคมีในสมอง

การทำงานที่ไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) หรือโดพามีน (Dopamine) อาจเป็นสาเหตุของความผิดปกติทางอารมณ์ เช่น โรคซึมเศร้า หรือโรควิตกกังวล นอกจากนี้ หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคทางจิตเวช ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคได้

2. พันธุกรรมและประวัติครอบครัว

หากมีสมาชิกในครอบครัวเคยมีปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า โรคไบโพลาร์ หรือโรคจิตเภท โอกาสที่บุคคลจะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคทางจิตเวชก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

3. ลักษณะนิสัยและบุคลิกภาพ

คนที่มีลักษณะนิสัยวิตกกังวลมาก คิดมาก หรือขาดความมั่นใจในตนเอง อาจมีแนวโน้มเกิดปัญหาทางอารมณ์และจิตใจได้ง่ายกว่าคนทั่วไป

4. สิ่งแวดล้อมและสังคมรอบตัว

การเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเครียด ความรุนแรง หรือความขัดแย้งในครอบครัว เช่น พ่อแม่ทะเลาะกันเป็นประจำ หรือไม่มีความมั่นคงทางอารมณ์ อาจส่งผลต่อพัฒนาการทางจิตใจของเด็ก และเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตในอนาคต

5. การถูกกระทำรุนแรงหรือมีบาดแผลทางใจ

การเผชิญกับเหตุการณ์เลวร้าย เช่น การถูกทำร้ายร่างกาย การล่วงละเมิดทางเพศ หรือการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก อาจทิ้งร่องรอยในใจ และก่อให้เกิดภาวะ PTSD หรือปัญหาทางอารมณ์เรื้อรัง

Mental Health สัญญาณเตือนของการมีปัญหาทางด้านจิตใจหรือโรคทางจิต

สัญญาณเตือนของการมีปัญหาทางด้านจิตใจหรือโรคทางจิต

ผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิตอาจมีอาการด้านอารมณ์หรือพฤติกรรมอย่างน้อย 1 อย่าง ดังต่อไปนี้

  • คิดอะไรไม่ออก รู้สึกโมโห ไม่พอใจ กลัว กังวล และขี้หลงขี้ลืมมากผิดปกติ
  • ไม่สามารถทํากิจกรรมประจําวันได้ เช่น ไปทํางาน
  • แยกตัวเองออกจากครอบครัวหรือเพื่อน
  • โต้เถียงหรือทะเลาะกับครอบครัวและเพื่อนฝูงบ่อยๆ
  • รู้สึกด้านชาและไม่มีความเห็นอกเห็นใจ
  • หมดความสนใจ และไม่มีพลังงานจะทําอะไรหรือมีน้อย
  • มีอาการเจ็บปวดทางร่างกายที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้
  • อารมณ์แปรปรวน
  • รู้สึกหมดหวังและหมดหนทาง
  • หูแว่ว
  • คิดถึงการทําร้ายตนเองหรือผู้อื่น
  • นอนมากเกินไปหรือนอนไม่หลับ 
  • กินมากเกินไปหรือน้อยกว่าปกติ

ผู้ที่มีความเครียดอาจมีความทุกข์ทางใจ จนอาจนำไปสู่ภาวะสติแตกหรือการที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ทำให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ

Mental Health โรคหรือความผิดปกติทางจิตใจที่พบบ่อย

โรคหรือความผิดปกติทางจิตใจที่พบบ่อย

  • โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้วหรือไบโพลาร์ (Bipolar disorder) เป็นปัญหาด้านจิตใจเรื้อรัง อารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรงสลับกันระหว่างอารมณ์ดีหรือก้าวร้าวผิดปกติ (mania) และภาวะซึมเศร้าผิดปกติ (depression)
  • โรคซึมเศร้า (Clinical depression or major depressive disorder) คือความรู้สิ้นหวังหรือเศร้าโศกมาก โดยมักมีอาการอย่างน้อย 2 สัปดาห์ 
  • โรคซึมเศร้าแบบดิสทีเมีย (Dysthymia or persistent depressive disorder) เป็นภาวะซึมเศร้าเรื้อรังที่อาจมีอาการนานกว่า 2 ปี 
  • โรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized anxiety disorder: GAD) เป็นความวิตกกังวลรุนแรงต่อเรื่องที่ไม่จำเป็น ผู้ที่เป็นโรคดังกล่าวจะดำเนินชีวิตผ่านไปแต่ละวันได้อย่างยากลำบาก และมักคิดว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่เข้าข้างตัวเอง 
  • โรคย้ำคิดย้ำทํา (Obsessive-compulsive disorder: OCD) เป็นความต้องการที่จะทำพฤติกรรมซ้ำ ๆ โดยไม่มีเหตุผล ผู้ป่วยโรคย้ำคิดย้ำทํามักรู้ตัวว่าชอบทำอะไรซ้ำ ๆ แต่ไม่สามารถหยุดทําได้
  • ภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง (Post-traumatic stress disorder: PTSD) เป็นผลมาจากเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างมาก เช่น ภัยพิบัติระดับชาติ สงคราม หรือการล่วงละเมิดทางวาจาหรือร่างกาย
  • โรคจิตเภท (Schizophrenia) เป็นภาวะรุนแรงที่รบกวนกระบวนการรับรู้ความจริง อาจทำให้มีอาการหูแว่ว หลงผิด เห็นภาพหลอน 
  • โรคกลัวสังคม (Social Phobia or social anxiety disorder) คือความรู้สึกกลัวที่จะถูกคนอื่นตัดสินเป็นอย่างมากและรู้สึกประหม่าเมื่ออยู่รอบตัวผู้คน

การป้องกันสุขภาพจิต: วิธีดูแลจิตใจให้แข็งแรงและมีความสุข

สุขภาพจิตที่ดี เป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือความสัมพันธ์กับผู้อื่น การดูแลสุขภาพจิตจึงเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นประจำเหมือนกับการดูแลสุขภาพร่างกาย ต่อไปนี้คือวิธีง่าย ๆ ที่ช่วย ป้องกันปัญหาสุขภาพจิต และเสริมสร้างความแข็งแรงทางใจ

  • ออกกำลังกายเป็นประจำ: การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขในสมอง ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสดชื่นให้กับจิตใจ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ โปรตีน และไขมันดี ช่วยบำรุงสมองและปรับสมดุลอารมณ์ได้
  • นอนหลับพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ: การนอนหลับเพียงพอและตรงเวลาจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจได้ฟื้นฟู ลดอาการวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
  • พูดคุยและใช้เวลากับคนที่คุณรัก: การได้พูดคุยกับเพื่อนหรือครอบครัวเป็นการระบายความเครียดและสร้างกำลังใจที่ดีให้กับจิตใจ
  • ฝึกทักษะการเผชิญปัญหา: การเรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียดหรือปัญหาในชีวิต เช่น การคิดเชิงบวก หรือการฝึกสติ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางอารมณ์
  • ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ: หากรู้สึกว่าตนเองเผชิญปัญหาทางจิตใจ การขอคำปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การตรวจวินิจฉัยสุขภาพจิต: ขั้นตอนและวิธีการประเมินอาการ

การวินิจฉัยปัญหาสุขภาพจิตเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้แพทย์สามารถระบุสาเหตุและแนะนำแนวทางการรักษาได้อย่างถูกต้อง โดยมักต้องอาศัยการพบแพทย์หลายครั้งและใช้หลายวิธีร่วมกัน เพื่อประเมินสภาพจิตใจของผู้ป่วยอย่างครอบคลุม

ขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยปัญหาสุขภาพจิต

  • การซักประวัติและตรวจร่างกาย
    แพทย์จะสอบถามประวัติสุขภาพทั่วไป พฤติกรรม ความเครียด ความวิตกกังวล รวมถึงโรคประจำตัว เพื่อดูว่ามีปัจจัยทางกายภาพที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจหรือไม่
  • การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
    อาจมีการตรวจเลือดหรือการตรวจอื่น ๆ เพื่อคัดกรองโรคทางกาย เช่น ความผิดปกติของฮอร์โมน หรือภาวะที่ส่งผลต่อสมอง
  • การตอบแบบสอบถามสุขภาพจิต
    ผู้ป่วยอาจต้องตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับอารมณ์ ความรู้สึก พฤติกรรม และคุณภาพชีวิต เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของอาการ
  • การประเมินทางจิตวิทยา
    นักจิตวิทยาจะทำการประเมินเชิงลึกผ่านการพูดคุย สังเกตพฤติกรรม หรือใช้เครื่องมือเฉพาะทาง เพื่อช่วยวินิจฉัยโรค เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล หรือไบโพลาร์

Mental Health Banner 2 (1)

แนวทางการรักษาสุขภาพจิต: วิธีดูแลจิตใจให้แข็งแรงและสมดุล

การรักษาสุขภาพจิตมีเป้าหมายหลักเพื่อค้นหาสาเหตุของปัญหา ลดอาการที่เกิดขึ้น และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถจัดการกับอารมณ์หรือพฤติกรรมได้ดีขึ้น แพทย์จะร่วมมือกับผู้ป่วยเพื่อวางแผนการรักษาแบบเฉพาะบุคคล โดยอาจใช้วิธีผสมผสานหลากหลายรูปแบบ ดังนี้:

  1. การใช้ยาในการรักษาสุขภาพจิต: ยาถูกนำมาใช้เพื่อลดหรือควบคุมอาการของโรค เช่น
    • ยาต้านอาการซึมเศร้า
    • ยาคลายความวิตกกังวล
    • ยากระตุ้นสมาธิ (สำหรับโรคสมาธิสั้น – ADHD)
    • ยาควบคุมอารมณ์
    • ยาต้านอาการทางจิต
  2. จิตบำบัด (Psychotherapy): การบำบัดด้วยการพูดคุยกับนักจิตบำบัด เพื่อทำความเข้าใจรากของปัญหาและฝึกทักษะในการปรับความคิดหรือพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต
  3. การรักษาในโรงพยาบาลหรือสถานฟื้นฟู: ผู้ที่มีอาการรุนแรง เช่น มีความคิดทำร้ายตัวเอง หรือไม่สามารถดูแลตนเองได้ อาจต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อการดูแลอย่างใกล้ชิดในระยะสั้น
    หลังจากนั้น อาจเข้ารับการฟื้นฟูในศูนย์บำบัดแบบประจำวันในบรรยากาศที่เป็นมิตรและปลอดภัย
  4. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการใช้ชีวิต
    สุขภาพจิตที่ดีเริ่มต้นจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น:
    • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
    • ออกกำลังกายเป็นประจำ
    • พักผ่อนให้เพียงพอ
    • พูดคุยกับคนใกล้ชิดเพื่อระบายความเครียด

คำถามที่พบบ่อย

  • สุขภาพจิตคืออะไร?
    สุขภาพจิตคือภาวะสมดุลของอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรม ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ความสัมพันธ์ และการตัดสินใจ
  • อาการของปัญหาสุขภาพจิตมีอะไรบ้าง?
    อาการที่พบบ่อย เช่น เครียดง่าย นอนไม่หลับ วิตกกังวล ซึมเศร้า ไม่มีแรงจูงใจ และหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม
  • จะดูแลสุขภาพจิตตัวเองได้อย่างไร?
    พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย พูดคุยกับคนใกล้ชิด และหากรู้สึกไม่ไหว ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
  • เมื่อไหร่ควรพบจิตแพทย์?
    หากมีอาการต่อเนื่องเกิน 2 สัปดาห์ เช่น เศร้า เครียด วิตกกังวลจนรบกวนชีวิตประจำวัน ควรพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการ
  • ปัญหาสุขภาพจิตรักษาให้หายขาดได้หรือไม่?
    ปัญหาสุขภาพจิตสามารถรักษาได้ หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง เช่น การบำบัดหรือใช้ยา

บทความโดย

เผยแพร่เมื่อ: 29 เม.ย. 2025

แชร์

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

  • Link to doctor
    พญ. ฐิติพร ศุภสิทธิ์ธำรง

    พญ. ฐิติพร ศุภสิทธิ์ธำรง

    • จิตเวชศาสตร์
    • จิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ
    จิตเวชศาสตร์, จิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ