เลือกหัวข้อที่อ่าน
- ทุเรียนกี่แคล
- ทุเรียน ประโยชน์
- ทุเรียนห้ามกินกับอะไร
- 4 กลุ่มโรค กินทุเรียน ต้องระวัง
- กินทุเรียนยังไง ไม่ให้อ้วน
- คำแนะนำในการกินทุเรียน
ทุเรียน (Durian)
ทุเรียน (Durian) เป็นผลไม้เขตร้อนที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทุเรียนมีเปลือกหนา ขนาดผลใหญ่ มีทรงกลมหรือรี และมีหนามแหลมแข็งปกคลุมทั่วทั้งเปลือกสีเขียว น้ำตาล ถึงอำพัน เนื้อในทุเรียนเป็นสีเหลืองอ่อน เหลืองทอง เหลืองอมส้มถึงแดง ต่างกันมากกว่า 30 สายพันธุ์ ทุเรียนได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชันแห่งผลไม้” เนื่องจากมีรสชาติหวาน หอม มัน อร่อย เข้มข้น มีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่มละมุนลิ้น คล้ายเนื้อคัสตาร์ด วานิลลา หรือคาราเมล และมีกลิ่นฉุนปานกลางถึงแรงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณทางยา อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ทว่าก็มีปริมาณน้ำตาลและไขมันสูงเช่นกัน จึงไม่ควรทานเกินปริมาณแนะนำต่อวัน การได้ลองชิมทุเรียนสักครั้งในชีวิต ถือว่าได้ลิ้มรสที่สุดแห่งผลไม้
ทุเรียนกี่แคล
ทุเรียน 100 กรัม ให้พลังงาน 130-180 กิโลแคลอรี โปรตีน 2-3 กรัม คาร์โบไฮเดรต 20-35 กรัม ไขมัน 3-5 กรัม ซึ่งโดยปกติแล้ว ผลไม้ทั่วไปจะให้พลังงานอยู่ที่ 60-70 กิโลแคลอรีในปริมาณที่เท่ากัน ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีสารอาหารหลากหลายชนิด ได้แก่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก ทองแดง วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี รวมถึงไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว คาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลที่ให้พลังงานสูง ดังนั้น การทานทุเรียนมากเกินไป อาจให้พลังงานกับร่างกายมากเกิน และทำให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง
ทำไมทุเรียน กลิ่นแรง
ในทุเรียนมียีนที่ชื่อ MGL ซึ่งทำหน้าที่ผลิตสารระเหยประเภทกำมะถัน ที่ทำให้ทุเรียนมีกลิ่นฉุนปานกลางถึงฉุนแรง ต่างกันไปตามสายพันธุ์ จนทำให้ผู้ที่ไม่ชื่นชอบรู้สึกคลื่นไส้ เวียนหัว ในขณะที่ผู้ที่ชื่นชอบกลับรู้สึกหอมหวนชวนรับประทาน และด้วยกลิ่นฉุนแรงของทุเรียน ทำให้สถานที่และระบบขนส่งสาธารณะหลายแห่ง เช่น เครื่องบิน รถไฟฟ้า โรงแรม หรือโรงหนัง ต้องติดป้ายห้ามนำทุเรียนเข้ามาภายในสถานที่โดยเด็ดขาด
ทุเรียน ประโยชน์
ทุเรียนมีคุณประโยชน์มากมายหากทานแต่พอดี ทุเรียนเป็นแหล่งรวมวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ชั้นดี ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ ช่วยให้ย่อยอาหาร ส่งเสริมการขับถ่าย บำรุงสมอง และเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้อารมณ์ดี ส่งเสริมการนอนหลับ และควบคุมความดันโลหิต
คุณค่าทางโภชนาการ
- กระตุ้นการขับถ่าย ในทุเรียนมีไฟเบอร์สูงซึ่งช่วยให้ขับถ่าย แต่ควรทานแต่น้อย และควรเลือกไฟเบอร์จากผักเป็นหลักเพื่อช่วยในการขับถ่าย
- สารต้านอนุมูลอิสระ สารฟลาโวนอยด์ แคโรทีนอยด์ และโพลีฟีนอลที่มีในทุเรียน ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว และริ้วรอยแห่งวัย
- บำรุงสายตา ทุเรียนมีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคต้อกระจก และความเสื่อมของกระจกตา
- บำรุงสมอง วิตามินบีรวมของทุเรียน เช่น ไทอามีน ไรโบฟลาวิน ไนอาซิน บี 6 และโฟเลต ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันอาการหลงลืม และโรคอัลไซเมอร์
- บำรุงครรภ์ โฟเลตในทุเรียน ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ตัวอ่อนในครรภ์ แต่ผู้ที่ตั้งครรภ์ควรทานแต่พอดี
- บำรุงฟัน ในเนื้อทุเรียนดิบ มีแคลเซียมสูง ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- ควบคุมความดันโลหิต ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและโพแทสเซียมในทุเรียน ช่วยลดคอเลสเตอรอล และความเสี่ยงโรคหัวใจ
ประโยชน์ทางโภชนาการ
- ต้านเชื้อแบคทีเรีย สารโพลีแซคคาไลน์ เจล ในเปลือกทุเรียนมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ช่วยสมานแผลและลดการอักเสบ
- ขับพยาธิ กำมะถันในทุเรียนมีสรรพคุณขับพยาธิไส้เดือน ช่วยบำรุงกำลัง และให้ความร้อนแก่ร่างกาย
- แก้ท้องร่วง รากทุเรียนมีสรรพคุณทางยา ช่วยแก้โรคท้องร่วง ท้องเสีย และยังแก้ไข้ได้อีกด้วย
- รักษาโรคผิวหนัง แก้ฝี กลากเกลื้อน ตานซาง ช่วยให้ฝีและหนองแห้งเร็ว ช่วยสมานแผล และแก้น้ำเหลืองเสีย
- ช่วยให้นอนหลับ กรดอะมิโน ทริปโตเฟนในทุเรียน ช่วยสร้างเมลาโทนิน ซึ่งช่วยส่งเสริมคุณภาพการนอนหลับ
- ช่วยให้อารมณ์ดี ทริปโตเฟนยังแปลงเป็น เซโรโทนิน สารสื่อประสาทที่ช่วยให้อารมณ์ดี และคลายความวิตกกังวล
- ส่งเสริมการทำงานของสมอง วิตามินซีในทุเรียน มีประโยชน์ต่อสมอง ช่วยกระตุ้นพัฒนาการรับรู้ และสติปัญญา
- บำรุงผิวพรรณ วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระในทุเรียน ยังช่วยบำรุงสุขภาพผิว และปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ
ทุเรียนห้ามกินกับอะไร
ทุเรียนเป็นผลไม้ฤทธิ์ร้อนที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว คาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลเป็นองค์ประกอบหลักในปริมาณสูง แพทย์ด้านโภชนาการแนะนำว่าหากเลือกทานทุเรียนแล้ว ก็ไม่ควรทานอาหารและเครื่องดื่มต่อไปนี้อีก เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับน้ำตาลและพลังงานมากจนเกินไป
แอลกอฮอล์
ในทุเรียนมีกำมะถันที่อาจเข้าไปขัดขวางการทำงานของเอม์ไซม์ Acetaldehyde dehydrogenase (ALDH) ทำให้ร่างกายไม่สามารถย่อยสาร acetaldehyde ที่เกิดจากการย่อยแอลกอฮอล์ตกค้างในร่างกายได้ ทุเรียนกับแอลกอฮอล์ จึงอาจส่งผลให้มีอาการคล้ายแพ้เหล้า (Disulfiram-ethanol reaction) เช่น หน้าแดง หัวใจเต้นเร็ว และส่งผลเสียต่อการทำงานของตับ
กาแฟและเครื่องดื่มคาเฟอีน
กำมะถันในทุเรียน อาจเข้าไปขัดขวางกระบวนการย่อยสลายของคาเฟอีนในร่างกาย การทานทุเรียนร่วมกับกาแฟหรือเครื่องดื่มคาเฟอีน อาจส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร และทำให้เกิดอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย และอาจทำให้มีกลิ่นปาก
ผลไม้รสหวาน
หากเลือกทานทุเรียนแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการทานผลไม้รสหวานชนิดอื่น เช่น มะม่วงสุก เงาะ ลิ้นจี่ ขนุน หรือลำไย เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายได้รับปริมาณน้ำตาลสูงอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากพลังงานเหล่านี้ไม่ได้ถูกเผาผลาญ ก็จะเกิดการสะสมเป็นไขมันส่วนเกิน และในผู้ที่เป็นเบาหวาน อาจทำให้มีอาการวูบ และหมดสติได้หากมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงมาก
ขนมหวาน น้ำอัดลม
ไม่ควรทานทุเรียนร่วมกับขนมหวาน น้ำหวาน หรือน้ำอัดลม เนื่องจากน้ำตาลส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และทำให้เซลล์อวัยวะต่าง ๆ เสื่อม
อาหารรสเผ็ด
การทานทุเรียนร่วมกับอาหารรสเผ็ดร้อน จะยิ่งทำให้ร่างกายเกิดความร้อน รู้สึกไม่สบายท้อง อาหารไม่ย่อย และท้องอืด และทำให้ร่างกายต้องสูญเสียน้ำทางลมหายใจและเหงื่อ เพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะร่างกายขาดน้ำ
นอกจากนี้ ทุเรียนยังทำให้เอมไซม์ช่วยย่อยตัวสำคัญทำงานช้าลง ส่งผลให้ เกิดการสะสมของสารแอลดีไฮด์ในร่างกาย และทำให้เกิดอาการหน้าแดง ชา วิงเวียนศีรษะ และอาเจียน
4 กลุ่มโรค กินทุเรียน ต้องระวัง
ผู้ที่มีโรคประจำตัว 4 กลุ่มโรคที่ต้องระวังเป็นพิเศษหากทานทุเรียน ได้แก่ โรคไต เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหลอดเลือดหัวใจตีบ เนื่องจากหากทานมากอาจทำให้เสี่ยงอาการทรุด เพราะทั้ง 4 กลุ่มโรค ต้องควบคุมระดับน้ำตาลและไขมันเป็นพิเศษ จึงควรทานแต่น้อย และไม่ควรทานถี่ทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นโรคไต ที่ไม่สามารถขับโพแทสเซียมส่วนเกินได้เทียบเท่ากับคนปกติ จึงควรเลี่ยงการทานทุเรียน เนื่องจากในทุเรียนมีโพแทสเซียมสูง ที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้
กินทุเรียนยังไง ไม่ให้อ้วน
ทุเรียนเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง ทุเรียน 1 เม็ด เท่ากับ 2 ส่วน ให้พลังงาน 130 กิโลแคลอรี จึงไม่ควรทานเกินวันละ 2 เม็ดต่อวัน และให้ลดอาหารจำพวกแป้ง ขนมปัง ข้าวลง 1 ทัพพี ในมื้อที่ทานทุเรียน
- เลี่ยงขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม ในมื้อที่ทานทุเรียน
- เลือกทุเรียนที่ไม่สุกงอมจนเกินไป
- เลี่ยงการทานทุเรียนมื้อดึก เวลากลางคืน
- ดื่มน้ำเปล่าตามหลังทานทุเรียนเยอะ ๆ
- กินทุเรียนร่วมกับผลไม้ฤทธิ์เย็น ที่มีน้ำคู่กัน เช่น มังคุด
- หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเผาผลาญพลังงานและไขมันส่วนเกิน
คำแนะนำในการกินทุเรียน
การทานทุเรียนให้ได้ประโยชน์ คือไม่ควรทานเกินวันละ 2 เม็ด ขนาดกลาง (หนักประมาณ 80 กรัม) และให้ลดอาหารจำพวกแป้ง ของหวาน และน้ำหวานในมื้อที่ทานทุเรียน เพราะหากทานทุเรียนครั้งละ 2-3 พู หรือ 4-6 เม็ด ร่างกายจะได้รับพลังงานสูงถึง 520-780 กิโลแคลอรี เทียบเท่ากับการทานอาหารมื้อหลัก 1-2 มื้อ และไม่ควรทานทุเรียนถี่ทุกวันเพราะอาจทำให้น้ำหนักตัวเกิน แผลร้อนใน และเจ็บคอ ทั้งนี้ ผู้ที่มีโรคประจำตัว สามารถทานได้ แต่ทานในปริมาณที่น้อยและหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดินอย่างน้อย 30 นาที 5 วัน/สัปดาห์ เพื่อให้เผาผลาญพลังงานส่วนเกิน และหากเป็นไปได้ ควรเลือกทานทุเรียนสดไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกิน แต่ก็ยังได้รับไฟเบอร์ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย
คุณค่าทางโภชนาการของสายพันธุ์ทุเรียนที่ได้รับความนิยม |
||||
พลังงาน ทั้งหมด (แคลอรี่) |
ไขมันทั้งหมด (ก.) |
น้ำตาล (ก.) |
คาร์โบไฮเดรต (ก.) |
|
ทุเรียนหมอนทอง |
185.37 |
3.65 |
26.69 |
34.55 |
ทุเรียนชะนี |
172.42 |
4.42 |
22.32 |
29.93 |
ทุเรียนก้านยาว |
201.58 |
4.49 |
20.97 |
35.74 |
ทุเรียนกระดุมทอง |
134.00 |
4.30 |
20.97 |
27.10 |
ทุเรียนพวงมณี |
174.00 |
3.69 |
27.27 |
31.72 |
ทุเรียนหลงลับแล |
167.66 |
3.98 |
23.59 |
27.21 |
ทุเรียนภูเขาไฟ คือ ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ชะนี หรือก้านยาวที่ปลูกบนดินภูเขาไฟ จ. ศรีษะเกษ และให้พลังงานเท่ากัน
ทุเรียนป่าละอู คือ ทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ปลูกในพื้นที่ป่าละอู จ. ประจวบคีรีขันธ์ และให้พลังงานเท่ากัน
ทุเรียนแปรรูป |
||
|
พลังงานทั้งหมด |
ปริมาณแนะนำ |
ทุเรียนทอด ถุงละ 1/2 กิโลกรัม |
508 |
ควรแบ่งทาน 5 ครั้ง |
ทุเรียนกวน 1 แท่ง ขนาด 300 กรัม |
320 |
ควรแบ่งทานอย่างน้อย 2-3 ครั้ง |
ข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน 1 ถ้วย |
220 |
ไม่ควรทานเกิน 1 ถ้วย/วัน |