เลือกหัวข้อที่อ่าน
- Botox คืออะไร
- Botox ยี่ห้อไหนดี
- ฉีด Botox กี่วันเห็นผล
- Botox กราม ลดขนาดกรามได้จริงไหม
- ฉีด Botox ที่ไหนดี
Botox
โบท็อกซ์ (Botox) หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) คือ โปรตีนบริสุทธิ์สกัดจากแบคทีเรียชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) ใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อมัดเล็กบนใบหน้าบริเวณที่ต้องการ เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับกรอบหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียว ให้กรามแลดูเล็กลง และช่วยให้ผิวหน้าแลดูเรียบเนียน เต่งตึงขึ้นจนสัมผัสได้ ในปัจจุบัน Botox ถือเป็นหัตถการเสริมความงามที่ได้การยอมรับและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพ และความปลอดภัย รวมถึงผลลัพธ์ของผิวที่แลดูอ่อนวัย ช่วยคืนความมั่นใจให้กับเจ้าของใบหน้าได้เป็นอย่างดี
Botox คืออะไร
โบท็อกซ์ (Botox) คือ การนำสารสกัดโปรตีนบริสุทธิ์โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว และไม่หดตัวตามปกติชั่วคราว ด้วยคุณสมบัติพิเศษดังกล่าว แพทย์จึงนิยมนำโบท็อกซ์มาใช้ในแวดวงความงามเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยแห่งวัย Botox ช่วยลดรอยย่นที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อจากการแสดงอารมณ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของแรงขับตามธรรมชาติของมนุษย์ เช่น การหัวเราะ ร้องไห้ หงุดหงิด โกรธ โมโห หรือพฤติกรรมส่วนบุคคล เช่น การขมวดคิ้ว หรือการย่นหน้าผาก จนทำให้เกิดรอยขมวดคิ้ว รอยย่นหน้าผาก หรือรอยตีนกาที่บริเวณหางตา อันเป็นที่มาของริ้วรอยแห่งวัย
โบท็อกซ์ (Botox) ทำงานอย่างไร?
สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ในโบท็อกซ์ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการทำงานของตัวรับ (Receptor) ของสารสื่อประสาทในเซลล์กล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นไม่สามารถรับคำสั่งจากเซลล์ประสาท และทำให้ไม่สามารถหดตัวได้ตามปกติ ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวนี้ จึงมีการนำโบท็อกซ์มาใช้ในทางการแพทย์เพื่อช่วยบรรเทาโรคและอาการบางอย่าง เช่น โรคไมเกรน ภาวะเหงื่อออกมาก หรือภาวะกล้ามเนื้อกระตุกที่คอหรือดวงตา และเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความงามในการช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยบริเวณหน้าผาก รอยขมวดคิ้วเหนือดั้งจมูก หรือตีนกา โบท็อกยังช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณกรามโดยทำให้ใบหน้าเล็กและเรียวลง อย่างไรก็ตาม โบท็อกเป็นสารที่เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะค่อย ๆ สลายตัวตามได้เองตามธรรมชาติภายใน 4-6 เดือน เพื่อความต่อเนื่อง แพทย์จึงแนะนำการฉีดโบ Botox ซ้ำทุก ๆ 4-6 เดือน เพื่อผลลัพธ์ของใบหน้าที่เต่งตึง อ่อนวัย แลดูเปล่งปลั่งอยู่ตลอดเวลา
บริเวณที่นิยมฉีด Botox และปริมาณที่แนะนำ
แพทย์จะแนะนำปริมาณโบท็อกที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลตามสภาพผิว รูปหน้า และปัญหาที่ต้องการแก้ไข ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ด้านผิวหนังและความงามเป็นหลัก บริเวณที่นิยมฉีดโบท็อกและตัวอย่างปริมาณยูนิตที่แนะนำคร่าว ๆ มีดังนี้
- ฉีดโบท็อกที่บริเวณหน้าผาก ใช้ Botox ประมาณ 8-20 ยูนิต
- ฉีดโบท็อกที่ระหว่างคิ้ว ใช้ Botox ประมาณ 6-12 ยูนิต
- ฉีดโบท็อกที่บริเวณหางตาหรือรอยตีนกา ใช้ Botox ประมาณ 10-20 ยูนิต
- ฉีดโบท็อกลดกราม ใช้ Botox ประมาณ 30-60 ยูนิต
- ฉีดโบท็อกกระชับกรอบหน้า ใช้ Botox ข้างละ 20-40 ยูนิต
โบท็อก ยี่ห้อไหนดี
ในปัจจุบัน มี Botox มากมายหลากหลายแบรนด์ในท้องตลาดที่มีคุณสมบัติและจุดเด่นแตกต่างกันออกไป สิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก คือความปลอดภัยและคุณภาพของ Botox โดยควรเลือกแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) และมีรีวิวผู้ใช้มาแล้วมากมายถึงผลลัพธ์หลังจากฉีดที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าได้จริง โดยแบรนด์ที่ทั่วโลกให้การยอมรับในปัจจุบัน ได้แก่
Allergan Botox เป็นแบรนด์โบท็อกซ์จากสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาทั้งในสหรัฐอเมริกา (US FDA) และไทย (Thai FDA) ในเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง โดย Allergan Botox ถือเป็น Botox ที่มีรายงานการดื้อยาน้อย ออกฤทธิ์ได้แม่นยำ ตรงจุด และให้ใบหน้าคงสภาพ แลดูเต่งตึง เรียบเนียนได้นาน ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว และรอยตีนกาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยปรับรูปหน้าให้เรียว กระชับ และช่วยลดขนาดกรามให้เล็กลงได้ โดยสามารถออกฤทธิ์ได้นาน 4-6 เดือน
การเตรียมตัว ก่อนการฉีด Botox
- ผู้ที่ต้องการฉีดโบท็อกควรศึกษา หาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Botox ที่ต้องการฉีดกับทางโรงพยาบาลหรือคลินิกว่ามีคุณสมบัติอย่างไร เป็นโบท็อกแท้และสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ และเคยผ่านการรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA Thailand) มาแล้วหรือไม่
- ในผู้ที่ทานยาดังต่อไปนี้ ควรหยุดใช้ยาชั่วคราวอย่างน้อย 7 วัน ก่อนการฉีด Botox ได้แก่ ยาแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อชนิด NSAIDS วิตามิน E น้ำมันปลา และใบแปะก๊วย
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
- แจ้งความต้องการให้แพทย์ทราบถึงบริเวณที่ต้องการฉีด Botox รวมถึงรับทราบจำนวนยูนิตที่แพทย์แนะนำ
ขั้นตอนการฉีด Botox
- แพทย์ประเมินสภาพผิวหน้า บริเวณที่ทำการฉีด รวมทั้งยืนยันแบรนด์ Botox และปริมาณยูนิตที่จะทำการฉีดให้ทราบ
- ผู้ช่วยแพทย์ทำความสะอาดใบหน้าบริเวณที่จะทำการฉีดโบท็อกให้สะอาด
- แพทย์ทายาชา หรือประคบเย็นบริเวณที่ต้องการฉีดให้ทั่วเพื่อลดอาการเจ็บจากการฉีดให้น้อยที่สุด
- เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะเริ่มทำการฉีดโบท็อกบนบริเวณที่ต้องการ โดยจะใช้เวลาในการฉีดประมาณ 10-20 นาที
การปฏิบัติตัวหลังการฉีด Botox
- งดการนอนราบ หรือนอนตะแคงอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ยากระจายตัวผิดตำแหน่ง
- ไม่ควรกด หรือใช้มือนวดคลึงบริเวณใบหน้าอย่างน้อย 12 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ยากระจายตัว
- หลีกเลี่ยงไม่ให้ใบหน้าเผชิญกับความร้อนทุกรูปแบบ เช่น การอบไอน้ำ การอบซาวน่า หรือการทำเลเซอร์บนใบหน้า การแช่ออนเซ็น หรือการอยู่หน้าเตาร้อน ๆ เพื่อประกอบอาหาร รวมถึงการอยู่หน้าเตาอาหารปิ้งย่าง ชาบู สุกี้ยากี้
- งดหัตถการบนใบหน้าทุกชนิดอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังการฉีด Botox เช่น นวดหน้า หรือสปาหน้า
- หลีกเลี่ยงการออกแรง หรือออกกำลังกายที่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล
ภายหลังจากการฉีด Botox 3-4 วัน ผู้ที่ฉีด Botox จะเริ่มรู้สึกตึงบริเวณที่ฉีด ภายใน 1-2 สัปดาห์ จะเริ่มสังเกตเห็นถึงผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของริ้วรอยที่แลดูตื้นขึ้น และจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ของผิวที่เรียบเนียน เต่งตึงขึ้นภายใน 1-2 เดือน
โบท็อก อยู่ได้นานแค่ไหน
Botox เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ หลังการฉีดโบท็อก ผลลัพธ์ของผิวหน้าจะแลดูเต่งตึงและคงอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน หลังจากนั้น ริ้วรอยแห่งวัยจะเริ่มปรากฏให้เห็นอีกครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ของผิวเต่งตึง อ่อนวัย แพทย์ผิวหนังและความงามจึงแนะนำให้ฉีดโบท็อกซ้ำตามระยะเวลาที่กำหนด โดยแพทย์จะแนะนำปริมาณยูนิตที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคลและการวินิจฉัยของแพทย์
Botox มีผลข้างเคียงหรือไม่
ผลข้างเคียงจากการฉีด Botox จะแตกต่างกันไปตามบริเวณที่ฉีด เช่น รอยช้ำ บวมแดง หรือปวดเมื่อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงและจะสามารถกลับมาเป็นปกติได้ภายใน 1-2 วัน
Botox มีภาวะแทรกซ้อนหรือไม่
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการฉีด Botox ได้แก่
- หนังตาตก เป็นภาวะที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการฉีด Botox เพื่อลดรอยย่นบริเวณหน้าผาก โดยอาจปรากฏอาการหลังฉีด 7-10 วัน โดยอาการจะทุเลาลงภายใน 2-4 สัปดาห์
- คิ้วตก หากจุดที่ฉีด Botox ใกล้กับบริเวณหางคิ้วมากเกินไป จะส่งผลทำให้ผู้ที่ฉีดไม่สามารถเลิกคิ้วหรือแสดงออกทางอารมณ์ได้ชั่วคราว
- ตาแห้ง อาการตาแห้งหลังการฉีด Botox เกิดจากการฉีดโบท็อก ใกล้กับต่อมน้ำตามากจนไปเกิน หรืออาจฉีดโดนต่อมน้ำตา ทำให้ต่อมน้ำตาลดการผลิตน้ำหล่อเลี้ยงลูกตา
- มุมปากบนหย่อนคล้อย เกิดจากการฉีด Botox เข้าสู่ชั้นกล้ามเนื้อ Zygomaticus ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อโกหนกแก้ม ที่เมื่อตัวยาถูกดูดซึม จะทำให้ริมฝีปากบนหย่อนคล้อย
- การดื้อยา เกิดจากการฉีด Botox ซ้ำเร็วกว่าระยะเวลาที่กำหนด ฉีดในปริมาณมากเกินไป และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพ
- อาการชาที่มือ อาจเกิดขึ้นหลังจากการฉีด Botox เพื่อรักษาเหงื่อที่ฝ่ามือ
ฉีดโบท็อก ห้ามกินอะไร
- ผู้ที่ฉีดโบท็อก ควรงดการทานหมูกระทะ อาหารปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องสัมผัสกับความร้อน หรือไอร้อน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ 24 ชั่วโมง
- งดการทานอาหารรสเผ็ดจัด ที่ทำให้รู้สึกเผ็ดร้อนจนหน้าแดงฉาน
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารหมักดองที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว เช่น ผลไม้ดอง หน่อไม้ดอง ปราร้า
- งดการสูบบุหรี่ เนื่องจากทำให้หลอดเลือดขยายตัว
ผู้ที่ไม่ควรฉีดโบท็อก มีใครบ้าง
- ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
- ผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือมีภาวะกล้ามเนื้อร่วมประสาท
- ผู้ที่มีภาวะหนังตาตก
- คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีภาวะติดเชื้อที่บริเวณผิวหนัง
ฉีดโบท็อก เจ็บไหม
การฉีดโบท็อกไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด โดยแพทย์อาจพิจารณาใช้ยาชาเฉพาะที่ ทาลงบนบริเวณที่ฉีด โดยทั่วไปผู้รับบริการส่วนใหญ่สามารถทนต่ออาการเจ็บแปลบเล็กน้อยบริเวณที่ฉีดได้ และสามารถกลับบ้านหรือกลับไปทำงาน และดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
ฉีด Botox ปลอดภัยไหม
Botox เป็นสารที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาทั้งในระดับสากลและในไทย การฉีดโบท็อก แท้โดยแพทย์ผู้ชำนาญการไม่ว่าด้วยวัตถุประสงค์ใด จึงถือเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายแก่ผู้ฉีด
โบท็อกกราม ลดขนาดกรามได้จริงไหม
โบท็อก ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณกรามได้จริง เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีในการลดขนาดกรามโดยไม่ต้องผ่าตัด โดย Botox จะออกฤทธิ์ลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กล้ามเนื้อกรามคลายตัวและดูมีขนาดเล็กลง ทำให้ใบหน้าแลดูเล็กและเรียวลง และทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น โดยโบท็อกกรามสามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น โบท็อกกรามควรทำควบคู่กับการทำเลเซอร์กลุ่มยกกระชับ เพื่อช่วยยกกระชับผิวหน้าหย่อนคล้อย ลดเหนียง และไขมันบริเวณขอบกราม ให้กรอบหน้าแลดูชัดขึ้น ให้ใบหน้าเล็กและเรียวลง
ฉีดโบท็อกที่ไหนดี
เพื่อความปลอดภัย และความมั่นใจในคุณภาพของ Botox รวมถึงความชำนาญของแพทย์ผู้ให้บริการ ควรเลือกฉีดโบท็อกกับโรงพยาบาลหรือสถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและความงามที่มีประสบการณ์คอยให้บริการและให้คำแนะที่เหมาะสม รวมถึงสามารถรักษาอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่เกิดการแพ้ยา โดยหลักเกณฑ์ในการพิจารณาสถานประกอบการในการเลือกฉีดโบท็อก มีดังนี้
- เลือกโรงพยาบาล หรือสถานประกอบการที่มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะอย่างถูกต้อง
- เลือกโรงพยาบาล หรือสถานประกอบการที่มีแพทย์ผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์ในการรักษาและได้รับการรับรองจากแพทยสภา
- เลือกโรงพยาบาล หรือสถานประกอบการที่ใช้ Botox แท้เท่านั้น พร้อมระบุยี่ห้อและฉลากกำกับให้เห็นชัดเจน โดยแพทย์ควรเปิดขวด และดึงยาให้เห็นก่อนทำการฉีด
- เลือกโรงพยาบาล หรือสถานประกอบการที่มีการติดตามประเมินผลการรักษา และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวก่อนและหลังการฉีดโบท็อก รวมถึงสถานประกอบการที่มีความพร้อมให้การรักษา หากเกิดอาการข้างเคียง หรือการแพ้ยา
Botox รพ. เมดพาร์ค
ศูนย์ผิวหนัง ความงาม และเส้นผม รพ. เมดพาร์ค กรุงเทพ ประเทศไทย นำโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนังและความงามที่มีประสบการณ์เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ มีความพร้อมในการตรวจวินิจฉัย ให้คำปรึกษา และรักษาปัญหาด้านความงามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแบบองค์รวมทั้งริ้วรอยแห่งวัย ร่องลึกบนใบบนหน้า รอยตีนกา สิวอักเสบ หรือจุดด่างดำจากรอยสิว ด้วย Botox ลดเลือนริ้วรอย laser ยกกระชับ Filler เติมเต็มร่องลึก Picosecond laser ลดเลือนจุดด่างดำ หรือเมโสหน้าใสให้ใบหน้าแลดูอ่อนกว่าวัย และหัตถการอื่น ๆ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์และอุปกรณ์ที่ทันสมัย มีความรวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัย ช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งให้การติดตามผลหลังการรรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยคงผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ พร้อมเผยผิวอ่อนวัย อิ่มฟู แลดูสุขภาพดีในทุกวัน