เลสิก (LASIK), PRK, Femto LASIK, ReLEx SMILE, SMILE Pro

เลสิก (LASIK), PRK, Femto LASIK, ReLEx SMILE, SMILE Pro

เลสิก (LASIK) คือ เทคนิคการผ่าตัดแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติแบบถาวรเพื่อรักษาปัญหาสายตา เช่น สายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง โดยการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ชนิดพิเศษ Femtosecond Laser เปิดฝากระจกตาชั้นนอก

แชร์

เลือกหัวข้อที่อ่าน


เลสิก (LASIK)

เลสิก (LASIK) คือ เทคนิคการผ่าตัดแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติแบบถาวรเพื่อรักษาปัญหาสายตา เช่น สายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง โดยการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ชนิดพิเศษ Femtosecond Laser เปิดฝากระจกตาชั้นนอก และใช้ Excimer Laser ปรับความโค้งของกระจกตาชั้นใน เพื่อให้แสงตกกระทบลงบนจอประสาทตาในตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยให้มองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน ตำแหน่งของภาพไม่คลาดเคลื่อนแม้ในที่แสงสว่างน้อยโดยไม่จำเป็นต้องสวมใส่แว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์ หมดกังวลเรื่องข้อจำกัดในการมองเห็น การทำเลสิกช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น มีอิสระที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างใจ และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่

ภาวะสายตาผิดปกติ มีสาเหตุเกิดจากอะไร?

ภาวะสายตาผิดปกติ (Refractive errors) มีสาเหตุเกิดจากความโค้งของกระจกตาที่มากหรือน้อยจนเกินไป ไม่พอดีกับขนาดและความยาวลูกตาทำให้แสงจากวัตถุไม่ตกกระทบในระยะที่พอดีกับจอประสาทตา ส่งผลให้การมองเห็นภาพไม่ชัดเจน

ภาวะสายตาผิดปกติ มีกี่ชนิด?

ภาวะสายตาผิดปกติทั่วไปมี 4 ชนิด ได้แก่

  1. สายตาสั้น (Myopia, nearsightedness) คือ ภาวะที่แสงโฟกัสหน้าจุดรับภาพ หรือแสงจากวัตถุโฟกัสก่อนถึงจอประสาทตา อันมีสาเหตุจากกระจกตาโค้งมากเกินไป หรือกระบอกตายาวเกินไป ทำให้เห็นวัตถุในระยะใกล้ได้ชัด แต่มองเห็นวัตถุในระยะไกลไม่ชัด หรือเห็นภาพมัวในระยะไกล
  2. สายตายาวแต่กำเนิด (Hyperopia, farsightedness) คือ ภาวะที่แสงโฟกัสหลังจุดรับภาพ หรือแสงจากวัตถุโฟกัสหลังจอประสาทตา อันมีสาเหตุจากกระจกตาโค้งน้อยกว่าปกติ (กระจกตาแบน) หรือกระบอกตาสั้นเกินไป ทำให้เห็นวัตถุไม่ชัดทั้งในระยะใกล้และไกล
  3. สายตาเอียง (Astigmatism) คือ ภาวะที่มองเห็นเป็นภาพซ้อนไม่โฟกัสรวมเป็นภาพเดียว โดยเกิดจากการมีจุดโฟกัสของแสง 2 จุดตกกระทบที่จอประสาทตาไม่สม่ำเสมอในระนาบเดียวกัน ทำให้มองเห็นภาพไม่คมชัด
  4. สายตายาวตามอายุ (Presbyopia) คือ ภาวะที่มองเห็นใกล้ไม่ชัด หรือมองเห็นเป็นภาพซ้อนขณะมองใกล้ เกิดจากการที่อายุเพิ่มมากขึ้น ทำให้เลนส์ตาสูญเสียความยืดหยุ่นจนทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างและโฟกัสในระยะใกล้ได้ มักพบในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป

การผ่าตัดแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติ มีกี่วิธี?

การผ่าตัดแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติมีหลายวิธี ทั้งวิธีการทำ PRK, LASIK (Blade LASIK), Femto LASIK, ReLEx SMILE หรือเทคโนโลยีการทำเลสิกรุ่นล่าสุด SMILE Pro โดยจักษุแพทย์จะเป็นผู้แนะนำวิธีการรักษาที่ดีที่สุดและเหมาะสมเฉพาะบุคคล การผ่าตัดแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติ มีวิธีดังต่อไปนี้

PRK

PRK (Photorefractive keratectomy) คือ วิธีการแก้ไขภาวะค่าสายตาผิดปกติด้วยเลเซอร์วิธีแรก ด้วยเทคนิคการลอกผิวกระจกตาชั้นนอกสุดออก (Epithelium) โดยการใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Laser) หรือสารละลายแอลกอฮอล์เจือจาง จากนั้นจึงทำการปรับความโค้งของกระจกตาชั้นในด้วยเอ็กไซเมอร์เลเซอร์เพื่อให้ได้ค่าสายตาที่เป็นปกติ  

หลังการผ่าตัด จักษุแพทย์จะให้ใส่คอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษแบบไม่มีค่าสายตา ครอบกระจกตาประมาณ 5-7 วัน เพื่อลดอาการระคายเคืองในระหว่างที่รอให้ร่างกายสร้างผิวกระจกตาชั้นนอกใหม่จนเสร็จสมบูรณ์แล้วจึงค่อยนำคอนแทคเลนส์ออก การทำ PRK เป็นวิธีการแก้ไขค่าสายตาสำหรับผู้ที่จักษุแพทย์ลงความเห็นว่าไม่เหมาะกับการทำเลสิกเนื่องจากมีกระจกตาบาง หรือตาแห้ง ข้อดีของการทำ PRK คือ ไม่มีการใช้เลเซอร์เปิดฝากระจกตา ช่วยรักษาความแข็งแรงตามธรรมชาติของกระจกตาเอาไว้ได้

Femto LASIK

Femto LASIK หรือ เลสิกไร้ใบมีด (Bladeless LASIK) คือ เทคนิคการผ่าตัดแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติโดยการใช้ Femtosecond Laser ในการแยกชั้นและเปิดฝากระจกตา จากนั้นจึงใช้ Excimer Laser ในการปรับแต่งกระจกตาทีละจุดเพื่อปรับความโค้งของกระจกตาให้เหมาะสมและได้ค่าสายตาที่เป็นปกติ แล้วจึงปิดฝากระจกตากลับสู่ตำแหน่งเดิม

การทำ Femto LASIK แตกต่างจากการทำเลสิกแบบดั้งเดิมที่ใช้ใบมีดด้วยการใช้ Femtosecond Laser ที่สามารถปล่อยเลเซอร์พัลส์ (Laser Pulse) สั้นระดับ 1 เฟมโตวินาที (1 ในพันล้านวินาที) ในการแยกชั้นกระจกตา เปิดฝากระจกตา และกำหนดความลึกของชั้นกระจกตาได้อย่างแม่นยำโดยไม่ทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบเสียหาย อ่อนโยนต่อสภาพดวงตา ใช้ระยะเวลาการพักฟื้นสั้นกว่า และช่วยให้มีการมองเห็นที่มีคุณภาพได้อย่างรวดเร็ว

ReLEx SMILE

ReLEx SMILE (ReLEx: Refractive Lenticule Extraction) (SMILE: Small Incision Lenticule Extraction) คือ เทคโนโลยีการผ่าตัดแก้ไขค่าสายตาแบบแผลเล็กโดยไม่เปิดฝากระจกตาที่พัฒนามาจากการทำเลสิก (LASIK) และ Femto LASIK โดยการใช้ Femtosecond Laser แยกชั้นกระจกตา ให้ได้เป็นชิ้นกระจกตาแผ่นบาง ๆ ที่เรียกว่าเลนส์ติคูล (Lenticule) จากนั้น จักษุแพทย์จะทำการดึงแผ่นเลนส์ติคูลออกผ่านแผลเล็ก ๆ ด้านข้างเพื่อปรับความโค้งของกระจกตาให้เหมาะสมได้ค่าสายตาที่เป็นปกติ โดยแผลที่กระจกตาสามารถสมานได้เองโดยไม่ต้องเย็บ

ReLEx SMILE ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากการเปิดฝากระจกตา กระทบกระเทือนกระจกตาน้อยมาก และช่วยคงความโค้งตามธรรมชาติของกระจกตาเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

SMILE Pro

SMILE Pro คือ เทคโนโลยีการผ่าตัดแก้ไขความผิดปกติทางสายตารุ่นล่าสุดด้วยนวัตกรรม Femtosecond Laser ที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบันด้วยเครื่อง Visumax 800 โดยทำการแยกชั้นเนื้อเยื่อกระจกตาบริเวณส่วนกลางออกเป็นแผ่นบาง ๆ ที่มีรูปร่างคล้ายเลนส์ หรือเรียกว่า “เลนส์ติคูล” (Lenticule) ซึ่งกระบวนการเลเซอร์จะใช้เวลาเพียง 8-10 วินาทีต่อ 1 ตา เร็วกว่า ReLEx SMILE แบบเดิมถึง 3 เท่า แล้วจึงดึงแผ่นเลนส์ติคูลออกจากกระจกตาผ่านแผลเล็ก ๆ ด้างข้างที่มีขนาดเพียง 2-4 มิลลิเมตรเท่านั้นเพื่อปรับรูปร่างและความโค้งของกระจกตาให้พอดีกับจุดหักเหของแสง ช่วยให้จุดรวมแสงตกกระทบลงบนตำแหน่งที่พอดีกับจอประสาทตา ทำให้การมองเห็นกลับมาเป็นปกติโดยไม่ทำลายผิวกระจกตาชั้นนอก

สมายล์ โปร (SMILE Pro) เป็นการผ่าตัดแผลเล็กที่ช่วยลดภาวะแทรกซ้อน ใช้เวลาผ่าตัดน้อย แผลหายไว สามารถใช้สายตาได้ในวันถัดไป ช่วยคงความแข็งแรงของกระจกตามากกว่าการทำเลสิกแบบทั่วไป ได้รับการยอมรับในวงการจักษุวิทยาว่ามีความแม่นยำและความปลอดภัยสูง

Lasik Proceduresภาพจาก: https://www.zeiss.com/

ขั้นตอนการทำเลสิกแบบ SMILE Pro มีวิธีการอย่างไร?

ขั้นตอนก่อนการทำ SMILE Pro

งดการสวมใส่คอนแทคเลนส์

  • ก่อนวันตรวจประเมินสภาพตาและก่อนวันผ่าตัด จักษุแพทย์จะขอให้ผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์แบบแข็ง (Hard Lens) หรือแบบกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม (Semi Hard Lens) งดการสวมใส่คอนเลนส์ดังกล่าวอย่างน้อย 21 วัน ในระหว่างนี้ ผู้รับการผ่าตัดสามารถสวมใส่แว่นสายตาได้
  • ผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์แบบนิ่ม (Soft Lens) จักษุแพทย์จะขอให้งดการสวมใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 7 วัน ก่อนวันตรวจประเมินสภาพตาและก่อนวันผ่าตัด โดยสามารถสวมใส่แว่นสายตาได้

หยุดยาบางชนิด

  • จักษุแพทย์จะขอให้ผู้ที่ทานยารักษาสิวในกลุ่ม Isotretinoin เช่น Roaccutane หรือ Acnotin งดการทานยาดังกล่าวอย่างน้อย 1 เดือนก่อนวันตรวจประเมินสภาพตาและก่อนผ่าตัด เนื่องจากยากลุ่มนี้อาจส่งผลข้างเคียงให้เยื่อบุตา และผิวกระจกตาแห้งกว่าปกติ
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือทานยารักษาโรคประจำตัว เช่น ยารักษาโรคเบาหวาน ยาลดไขมัน ยารักษาความดัน ยารักษาโรคไทรอยด์ รวมทั้งยานอนหลับทุกชนิด ควรแจ้งให้จักษุแพทย์ทราบในการพบจักษุแพทย์ครั้งแรก หรือก่อนการตรวจประเมินสภาพตาโดยไม่จำเป็นต้องงดยาก่อนวันเข้ารับการผ่าตัดแต่อย่างใด

การตรวจวินิจฉัยสภาพดวงตา

การตรวจวินิจฉัยสภาพดวงตา

  • จักษุแพทย์จะทำนัดตรวจวินิจฉัยสภาพดวงตาด้วยเครื่องวัดสายตาคอมพิวเตอร์ (Automated Refractometer) เพื่อตรวจและวัดค่าสายตาก่อนและหลังหยอดยาขยายม่านตา (Manifest Refraction and Cycloplegic Refraction) ตรวจสุขภาพดวงตา (Slit-lamp Examination) และการตรวจเฉพาะทางอื่น ๆ หากผู้เข้ารับการตรวจมีสุขภาพดวงตาที่สมบูรณ์ จักษุแพทย์จะทำนัดให้เข้ารับการผ่าตัดแก้ไขสายตา SMILE Pro ตามวันและเวลาที่ผู้เข้ารับการรักษาสะดวก
  • หากผลการตรวจวินิจฉัยสภาพดวงตาของผู้เข้ารับการตรวจไม่สมบูรณ์ เช่น มีอาการตาแห้ง ตาอักเสบ ติดเชื้อ ทีมจักษุแพทย์เฉพาะทางจะทำการรักษาอาการดังกล่าวให้หายดีก่อนแล้วจึงจะพิจารณาเข้าสู่ขั้นตอนการทำ SMILE Pro 
  • สำหรับผู้ที่มีผลการตรวจวินิจฉัยไม่สามารถทำ SMILE Pro ได้ จักษุแพทย์จะพิจารณาการแก้ไขค่าสายตาด้วยวิธีการอื่นที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล เช่น การทำ PRK หรือการผ่าตัดใส่เลนส์เสริม ICL

งดการแต่งหน้า

  • งดการแต่งหน้า การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ 1 วันก่อนการผ่าตัดและในวันผ่าตัด เพื่อหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่อาจตกค้างหรือทำความสะอาดได้ไม่หมด จนอาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อในดวงตาหลังการผ่าตัด

ขั้นตอนระหว่างการทำ SMILE Pro

Lasik Smile Pro 1ภาพจาก: https://www.zeiss.com/

  1. การสร้างเลนส์ติคูล (Lenticule creation) จักษุแพทย์จะแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติด้วยวิธี SMILE Pro โดยการใช้ Femtosecond Laser ตัดและแยกชั้นเนื้อเยื่อกระจกตาเป็นทรงกลมแผ่นเล็ก ๆ รูปเลนส์ หรือที่เรียกว่า“เลนส์ติคูล”(Lenticule) ภายในกระจกตา โดยจะใช้ระยะเวลาในการยิง Femtosecond Laser เพียง 8-10 วินาทีเท่านั้น จากนั้นจะค่อย ๆ เปิดแผลด้านข้างกระจกตาที่มีขนาดเล็กเพียง 2-4 มิลลิเมตร เพื่อนำเลนส์ติคูลออก

Lasik Smile Pro 2ภาพจาก: https://www.zeiss.com/

2. นำเลนส์ติคูลออก (Lenticule removal) จักษุแพทย์จะค่อย ๆ นำแผ่นเนื้อเยื่อกระจกตา หรือเลนส์ติคูลออกผ่านแผลด้านข้างกระจกตาอย่างระมัดระวังโดยไม่เปิดฝากระจกตาด้านบนขึ้น

Lasik Smile Pro 3ภาพจาก: https://www.zeiss.com/

3. ค่าสายตาได้รับการแก้ไข (Refractive correction) เมื่อการนำแผ่นเนื้อเยื่อกระจกตา หรือเลนส์ติคูลออกจากแผลบนผิวกระจกตาเสร็จสิ้น ความโค้งของกระจกตาจะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยน จุดหักเหของแสง และการรวมแสงบนจอประสาทตาจะค่อย ๆ ปรับสมดุลค่าสายตาให้เป็นปกติ ทำให้ผู้ที่มีค่าสายตาสั้น หรือค่าสายตาเอียงสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเป็นปกติเหมือนกับผู้ที่มีค่าสายตาปกติทั่วไป

การดูแลตนเองหลังการทำ SMILE Pro

  1. หลีกเลี่ยงการขยี้ตา หรือบีบตาแรง ๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์
  2. งดการล้างหน้า และระวังไม่ให้น้ำเข้าตาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  3. งดการใช้เครื่องสำอางรอบดวงตาเป็นเวลา 2 สัปดาห์
  4. งดการว่ายน้ำ และดำน้ำเป็นเวลา 1 เดือน
  5. หยอดยาตรงเวลาทุกครั้งตามจักษุแพทย์สั่ง
  6. สวมใส่ที่ครอบตาตอนนอนทั้งกลางวันและกลางคืน อย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อกันฝุ่นละออง และการขยี้ตาโดยไม่ระวัง
  7. สวมแว่นกันแดดในเวลากลางวันเพื่อป้องกันแสงแดดจ้า ลมแรง ที่อาจทำให้เกิดอาการตาแห้ง
  8. หลีกเลี่ยงกิจกรรม หรือการออกกำลังกายที่อาจทำให้มีเหงื่อเข้าตาเป็นเวลา 1 สัปดาห์
  9. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุกระทบกระแทกบริเวณดวงตาอย่างน้อย 3 เดือน
  10. งดการใช้สายตาจ้องมองเป็นระยะเวลานาน งดการดูจอ หรือการอ่านหนังสือนาน ๆ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  11. พบจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาลตามนัดหมายทุกครั้งเพื่อติดตามอาการ และประเมินผลการรักษา

Before After  Re L Ex Smile Pro

SMILE Pro มีข้อดีอย่างไร?

  • รวดเร็ว (Fast) SMILE Pro ใช้เทคโนโลยี Femtosecond Laser ที่ใช้เวลาในการยิงเลเซอร์เพียง 8-10 วินาทีเท่านั้น เร็วกว่า ReLEx SMILE ถึง 3 เท่า 
  • แม่นยำ (Precise) เครื่อง Visumax 800 สามารถกำหนดตำแหน่งความโค้งของกระจกตาตามการคำนวนของจักษุแพทย์ได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังมี Senser ระบบดิจิตอลประสิทธิภาพสูงที่ช่วยกำหนดจุดกึ่งกลางในการยิงเลเซอร์เนื้อเยื่อชั้นกระจกตา หรือเลนส์ติคูล ช่วยเตือนจักษุแพทย์หากตำแหน่งของลูกตามีการเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งที่คำนวนไว้
  • ปลอดภัย (Safe) SMILE Pro ใช้ Femtosecond Laser เปิดแผลด้านข้างกระจกตาโดยไม่เปิดฝากระจกตาขึ้น ลดโอกาสเสี่ยงที่อาจเกิดจากเครื่องยึดลูกตาสูญเสียแรงดูดเนื่องจากการกลอกตา ภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อเนื่องจากการเปิดฝากระจกตาขึ้น เป็นต้น
  • ไม่เปิดฝากระจกตา (Flapless Innovation) SMILE Pro เป็นนวัตกรรมการทำเลสิกแบบไม่เปิดฝากระจกตา ช่วยคงความแข็งแรงของกระจกตาหลังรับการผ่าตัด ทั้งยังช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อเนื่องจากการเปิดฝากระจกตา อาการกระจกตาเคลื่อนหลังการผ่าตัด และการงอกใหม่ตามธรรมชาติของเยื่อบุเซลล์เข้าไปในใต้ฝากระจกตา
  • ขนาดแผลผ่าตัดเล็กมาก (Very Small Incision) SMILE Pro แก้ไขค่าสายตาโดยการปรับความโค้งของกระจกตาและนำเนื้อเยื่อกระจกตา หรือเลนส์ติคูลออก (Lenticule extraction) โดยมีแผลผ่าตัดขนาดเล็กมากเพียง 2-4 มิลลิเมตรเท่านั้น เล็กกว่าการทำเลสิกด้วยวิธี FemtoLASIK ถึง 80 % ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างการผ่าตัด และช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วหลังการผ่าตัด 
  • ช่วยคงความโค้งของกระจกตาด้านนอก (Preservation of Corneal Integrity) เทคโนโลยีการผ่าตัดของ SMILE Pro ช่วยให้ชั้นกระจกตาด้านนอกได้รับการกระทบกระเทือนน้อย ช่วยคงความโค้งตามธรรมชาติของกระจกตาหลังรับการผ่าตัดไว้ได้มากที่สุด 
  • ลดผลข้างเคียง (Reduce Side Effects) SMILE Pro เป็นการผ่าตัดแบบแผลเล็กที่ลดการตัดผ่านเส้นประสาทรอบดวงตาที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น อาการตาแห้ง ตาอักเสบ อาการมองเห็นไม่ชัดในที่แสงน้อย หรือเห็นแสงกระจายในที่มืด 
  • ร่นระยะเวลาในการพักฟื้น (Minimal Downtime) ผู้ที่ทำเลสิกแบบ SMILE Pro ส่วนใหญ่สามารถใช้สายตาในวันรุ่งขึ้นหลังเข้ารับการผ่าตัดได้ทันที

ReLEx SMILE และ SMILE Pro แตกต่างกันอย่างไร?

ความแตกต่างระหว่าง ReLEx SMILE และ SMILE Pro คือ ความเร็วของ Femtosecond Laser ของเครื่อง VisuMax 800 ที่ใช้ยิงเลเซอร์ โดย ReLEx SMILE จะใช้ความเร็วในการยิงเลเซอร์ 25-27 วินาที ในขณะที่ SMILE Pro จะใช้ความเร็วในการยิงเลเซอร์เพียง 8-10 วินาทีเท่านั้น ร่นระยะเวลาการผ่าตัด ช่วยให้ดวงตาได้รับการกระทบกระเทือนน้อยที่สุด และช่วยให้ผู้รับการรักษาได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด

SMILE Pro เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีสุขภาพตาโดยรวมดี มีกระจกตาสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคที่เกี่ยวกับกระจกตา
  • ผู้ที่มีค่าสายตาสั้นไม่เกิน 1000 (-10.00 Diopters) สายตาเอียงไม่เกิน 500 (-5.00 Diopters) หรือมีสายตาสั้นร่วมกับสายตาเอียง
  • ผู้ที่มีอายุระหว่าง 20-50  ปี โดยมีค่าสายตาคงที่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงของค่าสายตาไม่เกิน 50 ใน 1 ปี

SMILE Pro ไม่เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับกระจกตา มีแผลเป็นบนกระจกตา โรคกระจกตาโก่ง กระจกตาถลอก ตาแห้งอย่างรุนแรง ตาอักเสบ ตาแพ้แสง
  • ผู้ที่มีโรคตาอย่างอื่น เช่น ต้อหินขั้นรุนแรง ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม สายตาขี้เกียจ หรือดวงตาติดเชื้อ
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี เริมที่ตา หรืองูสวัดขึ้นตา
  • ผู้ที่มีค่าสายตาไม่คงที่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงของค่าสายตาเกิน 50 ใน 1 ปี
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือคุณแม่กำลังให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีสายตายาวแต่กำเนิด หรือสายตายาวตามอายุ (จักษุแพทย์จะพิจารณารักษาด้วยวิธีอื่นที่เหมาะสม)

ReLEx SMILE และ SMILE Pro มีอัตราการประสบความสำเร็จมากแค่ไหน?

ReLEx SMILE และ SMILE Pro มีอัตราการประสบความสำเร็จมากแค่ไหน?

จากผลการศึกษาของผู้ที่ทำการผ่าตัดแก้ไขสายตาด้วยวิธี ReLEx SMILE และ SMILE Pro มีอัตราความสำเร็จดังนี้

  1. ระดับการมองเห็นใน 6 เดือน : ร้อยละ 99 มีระดับการมองเห็น 20/40 ใน 6 เดือนหลังเข้ารับการผ่าตัด
  2. ค่าสายตาเป็นปกติ 20/20 : ร้อยละ 88 ของกลุ่มผู้ที่ทำ ReLEx SMILE และ SMILE Pro ที่เข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุก 6 เดือน มีพัฒนาการการมองเห็นที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยมีระดับการมองเห็น 20/20 ซึ่งเป็นระดับการมองเห็นของผู้ที่มีค่าสายตาเป็นปกติ

ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นถึงอัตราความสำเร็จเป็นอย่างสูงของผู้ที่แก้ไขค่าสายตาด้วยวิธี ReLEx SMILE และ SMILE Pro ทั้งนี้ ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันตามสุขภาพของแต่ละบุคคล ผู้ที่ต้องการรักษาด้วย 2 วิธีข้างต้น ควรปรึกษาจักษุแพทย์ในระหว่างการตรวจตาเพื่อวินิจฉัยว่าเป็นผู้ที่สามารถรักษาด้วยวิธีการดังกล่าวได้หรือไม่

SMILE Pro ใช้เวลาในการพักฟื้นกี่วัน?

โดยทั่วไป ผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธี SMILE Pro สามารถใช้สายตาได้ในวันถัดไปหลังจักษุแพทย์เปิดผ้าปิดตาออกเพื่อตรวจอาการและประเมินผลการรักษา ทั้งนี้อาจมีอาการตาขุ่นมัวบ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตามการมองเห็นจะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ และจะสามารถมองเห็นได้อย่างสมบูรณ์ภายใน 2-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการรักษาควรหยอดยาให้ครบตามจักษุแพทย์สั่ง ระวังไม่ให้น้ำเข้าตา และปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์อย่างเคร่งครัด

SMILE Pro และ การทำ LASIK อื่นๆ มีความปลอดภัยแค่ไหน?

ในทางการแพทย์ SMILE Pro, ReLEx SMILE, Femto LASIK และ PRK ถือเป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติที่มีความปลอดภัยและให้ผลในการรักษาที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMILE Pro ที่ใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบไม่เปิดฝากระจกตาขึ้น ช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาได้

การทำเลสิก และ SMILE Pro รพ.เมดพาร์ค

ศูนย์จักษุ รพ.เมดพาร์ค กรุงเทพ ประเทศไทย นำโดยทีมจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์ในการทำเลสิก มีความพร้อมในการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอนทั้งก่อนและหลังรับการรักษาทั้งการทำ PRK, Femto LASIK และเทคโนโลยีรุ่นล่าสุด SMILE Pro เพื่อแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติทุกชนิดทั้งสายตาสั้น สายตาเอียง สายตายาวแต่กำเนิด หรือสายตายาวตามอายุด้วยเทคโนโลยีช่วยผ่าตัดระบบ AI ที่ทันสมัยและอุปกรณ์การตรวจวินิจฉัยและรักษาประสิทธิภาพสูง 

ทีมจักษุแพทย์ รพ.เมดพาร์ค ใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบแผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว ที่ช่วยให้การผ่าตัดมีความรวดเร็ว แม่นยำ ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน ร่นระยะเวลาการพักฟื้น ช่วยแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้รับการรักษามีการมองเห็นเป็นปกติ และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีอิสระ

บทความโดย

เผยแพร่เมื่อ: 12 ม.ค. 2024

แชร์

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

  • Link to doctor
    พญ. ฐิติมา หวังเจริญ

    พญ. ฐิติมา หวังเจริญ

    • จักษุวิทยา
    • จักษุวิทยากระจกตา
    • จักษุวิทยาผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ (LASIK & SMILE pro)
    • โรคของกระจกตา
    โรคตาแห้งและโรคผิวกระจกตา, โรคทางกระจกตาและตาส่วนนอก, โรคกระจกตาโก่ง, การผ่าตัดต้อกระจก, การผ่าตัดลอกต้อเนื้อโดยไม่เย็บ, การผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ, การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา
  • Link to doctor
    พญ. วรรณรัตน์ สาธิตพิฐกุล

    พญ. วรรณรัตน์ สาธิตพิฐกุล

    • จักษุวิทยา
    • จักษุวิทยากระจกตา
    • จักษุวิทยาผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ (LASIK & SMILE pro)
    โรคตาแห้งและโรคกระจกตา, การผ่าตัดต้อกระจก, การผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ, โรคตาแห้งและโรคผิวกระจกตา, ต้อกระจก
  • Link to doctor
    พญ.   ณัฐรินทร์   ภูษิตโภยไคย

    พญ. ณัฐรินทร์ ภูษิตโภยไคย

    • จักษุวิทยา
    • จักษุวิทยากระจกตา
    • จักษุวิทยาผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ (LASIK & SMILE pro)
    Ophthalmology, โรคทางกระจกตาและตาส่วนนอก, การผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ
  • Link to doctor
    ศ.พญ. งามจิตต์ เกษตรสุวรรณ

    ศ.พญ. งามจิตต์ เกษตรสุวรรณ

    • จักษุวิทยา
    • จักษุวิทยากระจกตา
    • จักษุวิทยาผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ (LASIK & SMILE pro)
    โรคทางกระจกตาและตาส่วนนอก, โรคตาแห้งและโรคผิวกระจกตา, โรคต้อเนื้อและการผ่าตัดโดยใช้กาวชีวภาพ, โรคกระจกตาโก่ง, การผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ, การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา, การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาโดยใช้สเต็มเซลล์, การผ่าตัดต้อกระจก
  • Link to doctor
    พญ. วิมลรัตน์ ประทีปะเสน

    พญ. วิมลรัตน์ ประทีปะเสน

    • จักษุวิทยา
    • จักษุวิทยากระจกตา
    • จักษุวิทยาผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ (LASIK & SMILE pro)
    การผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ
  • Link to doctor
    พญ. สุภาวดี เอื้อจงมานี

    พญ. สุภาวดี เอื้อจงมานี

    • จักษุวิทยา
    • จักษุวิทยากระจกตา
    • จักษุวิทยาผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ (LASIK & SMILE pro)
    โรคทางกระจกตาและตาส่วนนอก, โรคตาแห้งและโรคผิวกระจกตา, ภาวะสายตาผิดปกติ, การผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ, โรคต่อมไขมันที่เปลือกตาอุตตัน, การผ่าตัดต้อกระจก
  • Link to doctor
    รศ.พิเศษ นพ. ภาคภูมิ คัมภีร์พันธุ์

    รศ.พิเศษ นพ. ภาคภูมิ คัมภีร์พันธุ์

    • จักษุวิทยา
    • จักษุวิทยาผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ
    การผ่าตัดต้อกระจก, ผ่าตัดต้อกระจกหลังทำเลสิก, ผ่าตัดต้อกระจกใส่เลนส์ชนิดพิเศษ, ผ่าตัดต้อกระจกใส่เลนส์ชนิดพิเศษ, ผ่าตัดต้อกระจกใส่เลนส์ชนิดพิเศษ, ใส่คอนแทคเลนส์, โรคกระจกตาโก่ง, การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยสายตาเลือนรางและเทคโนโลยีช่วยการมองเห็น
  • Link to doctor
    พญ. อุษณีย์ เหรียญประยูร

    พญ. อุษณีย์ เหรียญประยูร

    • จักษุวิทยา
    • จักษุวิทยากระจกตา
    • จักษุวิทยาผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ (LASIK & SMILE pro)
    โรคทางกระจกตาและตาส่วนนอก, โรคต้อเนื้อและการผ่าตัดโดยใช้กาวชีวภาพ, โรคกระจกตาโก่ง, การผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ, การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา, การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาโดยใช้สเต็มเซลล์, การผ่าตัดต้อกระจก
  • Link to doctor
    พญ. มณฑิรา เจิมจุติธรรม

    พญ. มณฑิรา เจิมจุติธรรม

    • จักษุวิทยา
    • จักษุวิทยากระจกตา
    • จักษุวิทยาผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ (LASIK & SMILE pro)
    โรคทางกระจกตาและตาส่วนนอก, การผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ, Ophthalmology, โรคต้อเนื้อ, โรคตาแห้งและโรคกระจกตา, การผ่าตัดต้อกระจก, การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา