โรคกระดูกสันหลังคด
โรคกระดูกสันหลังคด เป็นภาวะที่กระดูกสันหลังเกิดการบิดตัวและโค้งงอออกด้านข้าง โดยมีอาการที่สังเกตได้ คือ
- ความสูงไหล่ หรือ สะโพก 2 ข้างไม่เท่ากัน
- สะบัก หรือ หน้าอกข้างหนึ่ง ยืดออกไม่สมดุลกับอีกข้าง
- ลำตัว หรือ สะโพก เอียงออกด้านข้าง ทำให้ศีรษะกับเชิงกรานไม่ตรงกัน
ภาวะกระดูกสันหลังคด พบได้ประมาณ 3% ของประชากร โดยส่วนใหญ่จะสังเกตุพบตั้งแต่ช่วงวัยเด็กหรือช่วงเข้าสู่วัยรุ่น พบได้ในเด็กทั้ง 2 เพศเท่าๆกัน แต่เพศหญิงมีโอกาสที่จะหลังคดเพิ่มขึ้นตามการเจริญเติบโตจนต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดมากกว่าเพศชายประมาณ 8 เท่า
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีกระดูกสันหลังคดมักไม่มีอาการอื่นนอกจากเสียบุุคลิกภาพ แต่ในรายที่มีความผิดรูปมากขึ้นอาจทำให้ลำตัวเอียงจนเสียสมดุลและเกิดอาการปวดหลัง ในบางรายที่อาการรุนแรงและผิดรูปมาก อาจทำให้ช่องอกมีขนาดเล็กลงและขัดขวางการทำงานของปอดและหัวใจ ทำให้สมรรถภาพร่างกายลดลง และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
สาเหตุของภาวะหลังคด
แบ่งหลักๆได้ 3 ประเภท ได้แก่
- หลังคดโดยไม่ทราบสาเหตุ พบได้มากที่สุด ส่วนหนึ่งพบว่ามีความสัมพันธ์กับกรรมพันธ์ในครอบครัว จะเริ่มแสดงอาการเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น และผิดรูปมากขึ้นตามการเจริญเติบโตของร่างกาย
- ความผิดปกติของรูปร่างกระดูกสันหลังตั้งแต่กำเนิด เช่นการเชื่อมติดกันของกระดูกเพียงด้านเดียว มักสังเกตุเห็นได้ตั้งแต่อายุน้อย
- ความผิดปกติของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เช่น ภาวะสมองพิการ, การบาดเจ็บของไขสันหลัง, ภาวะกล้ามเนื้อฝ่อ กระดูกสันหลังคดประเภทนี้มักจะมีความผิดรูปเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และส่วนใหญ่มักจำเป็นต้องรักษาโดยการผ่าตัด
การตรวจร่างกายเบื้องต้นเองที่บ้าน
การตรวจเบื้องต้นที่บ้าน สามารถทำได้โดยให้ผู้ป่วยยืนขาชิดกัน แล้วก้มตัวไปข้างหน้าให้สะโพกงอ 90 องศา ถ้ามีภาวะกระดูกสันหลังคด จะเห็นว่าความโค้งนูนของหลัง 2 ข้างไม่เท่ากัน
การตรวจทางรังสีวิทยาในโรงพยาบาล
การตรวจทางรังสีวิทยาในโรงพยาบาลจะมีความละเอียดมากขึ้น
- เอกซเรย์กระดูกสันหลัง เป็นวิธีมาตรฐานในการวัดมุมกระดูกสันหลังที่คด และประเมินความยืดหยุ่นของหลังโดยการเอกซเรย์ท่าเอียงลำตัว
- CT-scan ช่วยบอกรูปร่างของกระดูกสันหลังที่ผิดปกติในแต่ละระดับ ช่วยในการวางแผนการผ่าตัด
- MRI ใช้ในกรณีที่สงสัยความผิดปกติของไขสันหลังและเส้นประสาท ที่อาจพบร่วมกับภาวะกระดูกสันหลังคดได้
การพิจารณาทางเลือกในการรักษา มีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
To select the appropriate treatment, your doctor will consider the following factors.
- อายุ เนื่องจากภาวะกระดูกสันหลังคดมีความสัมพันธ์อย่างมากกับการเจริญเติบโต ผู้ป่วยที่ตรวจพบหลังคดตั้งแต่อายุน้อย จะมีโอกาสที่หลังจะคดเพิ่มขึ้นได้มาก
- ระดับของกระดูกที่คด กระดูกสันหลังส่วนอก มีโอกาสที่จะคดเพิ่มขึ้น มากกว่ากระดูกสันหลังส่วนอื่น
- ความรุนแรงของความคด ในผู้ป่วยที่มีมุมกระดูกคดมาก จะยิ่งมีโอกาสที่จะคดมากขึ้น
- เพศ เพศหญิงมีแนวโน้มที่หลังจะคดมากขึ้น มากกว่าเพศชาย
Treatments
ทางเลือกในการรักษา ได้แก่ การเฝ้าสังเกตอาการ การใส่อุปกรณ์พยุงหลัง และการผ่าตัด
การเฝ้าสังเกตอาการภาวะหลังคด
ใช้ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ เมื่อพบภาวะหลังคดที่ไม่รุนแรง (มุมน้อยกว่า 20-25 องศา) หรือตรวจพบหลังคดในช่วงอายุที่เข้าสู่วัยรุ่นแล้ว โอกาสที่หลังจะคดมากขึ้นมีไม่มาก แพทย์มักจะแนะนำให้สังเกตอาการและตรวจติดตามทุก 4 - 6 เดือน จนพ้นช่วงเจริญเติบโต
ผู้ป่วยหลังคดสามารถทำกิจกรรมทุกอย่างได้ตามปกติ งานวิจัยบางชิ้นให้ข้อสรุปว่า ผู้ป่วยที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ มีแนวโน้มที่หลังจะคดเพิ่มขึ้นน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ออกกำลังกาย
การใส่อุปกรณ์พยุงหลัง (Bracing)
ใช้ในผู้ป่วยที่ยังอยู่ในช่วงเจริญเติบโตไม่เต็มที่ (ผู้หญิงอายุน้อยกว่า 14 ปี และผู้ชายอายุน้อยกว่า 16 ปี) และมีมุมหลังคดที่ไม่รุนแรงมาก (25 - 40 องศา) โดยอุปกรณ์พยุงหลังไม่ได้ช่วยทำให้หลังคดน้อยลง แต่อาจช่วยชะลอการคดเพิ่มของหลังได้ โดยอุปกรณ์ทำจากวัสดุพลาสติกที่ดัดให้เข้ากับสรีระ ใส่ไว้ในเสื้อผ้าและสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ปกติ แต่จะต้องใส่อย่างน้อยวันละ 16 - 23 ชั่วโมง จึงจะเห็นผล ความร่วมมือของผู้ป่วยจึงมีความสำคัญมาก
การผ่าตัดกระดูกสันหลังคด
ในผู้ป่วยที่มุมหลังคดมากกว่า 45 องศา หรือมีแนวโน้มที่จะคดมากขึ้นอย่างรวดเร็ว แพทย์มักจะแนะนำให้รักษาโดยการผ่าตัด เพื่อแก้ไขแนวกระดูกที่คด และป้องกันการคดเพิ่มในอนาคต เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดมีหลายวิธี ขึ้นกับลักษณะของผู้ป่วยแต่ละราย
- ผ่าตัดใส่โลหะดามกระดูก แก้ไขความผิดรูป และเชื่อมกระดูกสันหลังจากทางด้านหลัง เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
- การผ่าตัดเข้าทางด้านหน้าและช่องอกเพื่อเชื่อมกระดูกสันหลังทางด้านหน้า
- การผ่าตัดใส่โลหะดามกระดูกชนิดยืดออกได้ (Magnetic growing rod) ใช้ในผู้ป่วยที่อายุน้อย โดยใส่อุปกรณ์ที่สามารถยืดออกได้ด้วยการใช้รีโมทจากภายนอก เพื่อควบคุมความรุนแรงของกระดูกสันหลังคดขณะที่รอให้ผู้ป่วยเจริญเติบโตเต็มที่ จึงมาผ่าตัดเชื่อมกระดูกอีกครั้ง
ผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังคด มักอยู่ในช่วงเข้าสู่วัยรุ่น ซึ่งต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านร่างกายและอารมณ์อยู่แล้ว การมีความผิดปกติของรูปร่างจึงมีผลต่อสภาพจิตใจ ทำให้เกิดความโกรธ ความไม่มั่นใจ และความกลัวการเคลื่อนไหว กลัวการเข้าสังคมได้ ครอบครัวจึงมีส่วนสำคัญในการให้กำลังใจและสนับสนุน ให้ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ ในรายที่มีความผิดปกติรุนแรงอาจต้องปรึกษาจิตแพทย์หรือเข้าร่วมกลุ่มบำบัดร่วมด้วย