การแช่แข็งไข่หรือการฝากไข่ Egg Freezing or Oocyte Cryopreservation

การแช่แข็งไข่หรือการฝากไข่

เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความเย็นในการเก็บรักษาเซลล์สืบพันธุ์หญิงซึ่งก็คือ ไข่ เพื่อนำมาปฏิสนธิกับตัวอสุจินอกร่างกาย

แชร์

การแช่แข็งไข่หรือการฝากไข่

การแช่แข็งไข่หรือการฝากไข่ (Egg Freezing or Oocyte Cryopreservation) เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความเย็นในการเก็บรักษาเซลล์สืบพันธุ์หญิงซึ่งก็คือ ไข่ เพื่อนำมาปฏิสนธิกับตัวอสุจินอกร่างกายโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสม

กระบวนการในการแช่แข็งไข่หรือฝากไข่ มีขั้นตอนดังนี้ 

  1. การกระตุ้นรังไข่
    เริ่มต้นด้วยการตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงผ่านทางช่องคลอดและเจาะเลือดเพื่อเช็คจำนวนไข่ จากนั้นจึงทำการฉีดยากระตุ้นไข่ประมาณ 9 ถึง 12 วัน ซึ่งปริมาณยาจะมากหรือน้อยในแต่ละรายไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการทำงานของรังไข่ เมื่ออัลตราซาวนด์ติดตามพบว่าได้ขนาดและจำนวนไข่ตามที่แพทย์ต้องการแล้วจะมีการฉีดยาให้ไข่สุก
  2. การเก็บไข่ผ่านทางช่องคลอด
    เป็นการทำหัตถการภายใต้การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงและใช้เข็มเจาะดูดเซลล์ไข่ออกมาจากถุงไข่ เป็นหัตถการเล็ก ทำภายใต้การให้ยาสลบทางเส้นเลือดโดยวิสัญญีแพทย์ โดยผู้ป่วยจะต้องงดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนการเก็บไข่และใช้เวลาประมาณ 30 นาทีถึง 45 นาทีขึ้นอยู่กับจำนวนไข่
  3. การแช่แข็งไข่
    โดยนักวิทยาศาสตร์จะทำการคัดเลือกไข่ที่สมบูรณ์เพื่อนำไปแช่แข็ง โดยการลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ไม่เกิดผลึกน้ำแข็งที่ทำลายเซลล์ไข่ให้เสียหาย เมื่อต้องการใช้ไข่ที่แช่แข็งไว้ นักวิทยาศาสตร์จะทำการละลายไข่ ไข่จะถูกทำให้กลับคืนสู่สภาวะอุณหภูมิร่างกาย ตามขั้นตอนเทคนิคทางห้องปฏิบัติการ รวมทั้งตรวจสอบและประเมินความสมบูรณ์ของไข่ ก่อนที่จะทำการปฏิสนธิกับอสุจิเป็นตัวอ่อนและทำการย้ายฝากเข้าสู่โพรงมดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป

ในปัจจุบันมีการวิจัยพบว่าการจะมีบุตรหนึ่งคนจะต้องมีไข่ที่คุณภาพดีแช่แข็งไว้อย่างน้อย 8 ถึง 10 ใบสำหรับผู้รับบริการที่อายุน้อยกว่า 35 ปี

โดยความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับจำนวนและคุณภาพไข่ ช่วงอายุที่แช่แข็งไข่ ยิ่งอายุน้อยโอกาสสำเร็จจะสูงขึ้น

ข้อดีของการเก็บไข่แช่แข็งหรือการฝากไข่

  • เหมาะกับผู้หญิงที่ต้องการเก็บไข่แช่แข็งไว้เพื่อวัตถุประสงค์นำไปปฏิสนธิกับอสุจิของสามีในช่วงเวลาที่พร้อมมีบุตรในอนาคต
  • สำหรับผู้หญิงที่ต้องการเก็บไข่แช่แข็งก่อนการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือฉายรังสีที่อาจเป็นอันตรายต่อรังไข่
  • สำหรับผู้มีปัญหาด้านพันธุกรรม ทำให้รังไข่เสื่อมการทำงานเร็วหรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของรังไข่ เช่น ช็อกโกแลตซีสต์
  • ใช้ในกรณีรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเด็กหลอดแก้ว แต่ฝ่ายชายไม่สามารถหลั่งอสุจิหรือไม่มีตัวอสุจิในวันที่ฝ่ายหญิงเก็บไข่ก็สามารถแช่แข็งไข่เก็บไว้ก่อนได้
  • ใช้ในการเก็บแช่แข็งไข่เพื่อบริจาค

ความสำเร็จของการตั้งครรภ์จากไข่แช่แข็ง 

ความสำเร็จขึ้นอยู่กับอายุ รวมถึงปริมาณและคุณภาพของไข่พื้นฐาน โดยทั่วไปไข่ที่ผ่านการแช่แข็งจะมีอัตราการรอดชีวิตหลังละลายประมาณร้อยละ 80 - 90 เมื่อเข้าสู่กระบวนการปฏิสนธิกับอสุจิพบว่า อัตราการปฏิสนธิอยู่ที่ร้อยละ 70 - 80 หลังจากปฏิสนธิได้ตัวอ่อนแล้วทำการเลี้ยงตัวอ่อนไปอีก 5 วัน เพื่อให้ได้ตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์ที่เหมาะสมต่อการฝังตัว โอกาสได้ตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์อยู่ที่ประมาณร้อยละ 60




บทความโดย
พญ.พิมพกา ชวนะเวสน์

สูตินรีแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และสตรีวัยหมดประจำเดือน
ประวัติแพทย์
คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก

เผยแพร่เมื่อ: 13 ธ.ค. 2022

แชร์