ฝนฟ้าอากาศ 4 กลุ่มโรคหน้าฝน อันตราย ต้องระวัง สังเกตอาการ

ฝนฟ้าอากาศ 4 กลุ่มโรคหน้าฝน อันตราย ต้องระวัง สังเกตอาการ

ฝนฟ้าอากาศ ในฤดูฝน เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของลมประจำฤดู หรือลมมรสุม (Monsoonal wind) โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดพาเอาไอน้ำจากทะเลเข้าสู่แผ่นดิน

แชร์

เลือกหัวข้อที่อ่าน


ฝนฟ้าอากาศ โรคหน้าฝน ต้องระวัง

ฝนฟ้าอากาศ ในฤดูฝน เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของลมประจำฤดู หรือลมมรสุม (Monsoonal wind) โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดพาเอาไอน้ำจากทะเลเข้าสู่แผ่นดิน ทำให้มีฝนตกชุกต่อเนื่องหลายเดือนตลอดฤดูฝน โดยมีปัจจัยเสริม เช่น ร่องมรสุมพาดผ่าน พายุดีเปรสชัน และลักษณะภูมิประเทศ สำหรับประเทศไทย ฤดูฝนเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคมจนถึงตุลาคม โดยช่วงเดือนที่ฝนตกชุกมากที่สุดมักอยู่ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงกันยายน และมักนำพามาซึ่งโรคหน้าฝน ที่ส่งผลต่อสุขภาพของผู้คน

ทำไม ฝนฟ้าอากาศ ทำให้เกิดโรคหน้าฝน

อุณหภูมิที่เย็นลงในช่วงหน้าฝน ความชื้นในอากาศที่สูงขึ้น และแหล่งน้ำท่วมขังจากฝนตกชุก เป็นสภาวะแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคหลายชนิด ทั้งยังสามารถแพร่กระจายเชื้อสู่คนได้ง่ายและเร็วมากยิ่งขึ้นทั้งทางอากาศ น้ำ และสัตว์พาหะนำโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภูมิต้านทานร่างกายอ่อนแอแล้วไปสัมผัสโดนกับละอองฝน ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค และทำให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคหน้าฝนได้ง่ายยิ่งขึ้น

Rainy Weather 2

4 กลุ่มโรคหน้าฝน ที่พบบ่อย

1. โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ

  1. โควิด 19 (COVID 19)
    • โควิด 19 (COVID 19) โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ที่ติดต่อผ่านการหายใจเอาละอองฝอยไอจาม น้ำมูก น้ำลายเข้าสู่ปาก จมูก และ/หรือลงสู่ปอด หรือเอามือไปสัมผัสกับวัตถุที่มีเชื้อไวรัส COVID-19 (SARS-CoV-2) ปนเปื้อน แล้วไปโดนจมูก ปาก หรือตา แล้วทำให้เกิดการติดเชื้อและแสดงอาการของโรคโควิด 19 (โดยทั่วไป มีอาการใน 3-4 วัน)
    • อาการ มีไข้ ไอ คัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจลำบาก เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ การดมกลิ่นหรือรับรสผิดปกติ
    • คำแนะนำ สวมหน้ากากอนามัย กักตัว แยกตัว และตรวจ ATK หากผลเป็นบวกและมีอาการรุนแรง มีภาวะปอดอักเสบ หรือมีอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) ให้ไปตรวจรักษาโควิดที่ รพ. ทันที
  2. ไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
    • ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) โรคติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza A, B หรือ C) ในระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน ที่ติดต่อจากคนสู่คนผ่านการหายใจเอาละอองฝอยไอจาม น้ำมูก น้ำลายเข้าไป หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งที่มีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ปนเปื้อน แล้วใช้มือไปสัมผัสโดนจมูก ปาก หรือตา โดยมักเริ่มมีอาการประมาณ 1-4 วัน
    • อาการ มีไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ น้ำมูกไหล เจ็บคอ ตาแดง ตาแฉะ และอ่อนเพลีย
    • คำแนะนำ สวมหน้ากากอนามัย แยกตัว ทานยาลดไข้ ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ หากภายใน 24 ชม. หลังทานยาลดไข้แล้วอุณหภูมิร่างกายไม่ลดลง อาการรุนแรงมากยิ่งขึ้น หรือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ให้ไปตรวจรักษาที่ รพ.
  3. ปอดบวม ปอดอักเสบ (Pneumonia)
    • ปอดบวม ปอดอักเสบ (Pneumonia) โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อราผ่านการหายใจ ไอ จาม หรือสำลักเอาน้ำลาย น้ำดื่ม หรืออาหาร ที่มีเชื้อสะสมบริเวณทางเดินหายใจส่วนบนแล้วลงสู่ปอด จนทำให้เกิดปอดบวม หรือปอดอักเสบ
    • อาการ เริ่มป่วยเหมือนไข้หวัด มีไข้สูง อ่อนเพลีย ไอมีเสมหะ ร่วมกับคลื่นไส้ หายใจหอบเหนื่อยเฉียบพลัน อาเจียน และเจ็บแน่นหน้าอก
    • คำแนะนำ เมื่อเริ่มมีไข้หวัด ให้เว้นระยะห่าง ทานยาลดไข้ ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ หากมีไข้สูงลอย มีอาการอ่อนเพลีย หายใจลำบาก และเจ็บแน่นหน้าอกรุนแรง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ให้รีบไปพบแพทย์ที่ รพ.

Rainy Weather 3

2. โรคติดเชื้อทางเดินอาหารและน้ำ

  1. อุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute diarrhea)
    • อุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute diarrhea) โรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารที่เกิดจากการรับเชื้อแบคทีเรีย พยาธิ โปรโตซัว หรือไวรัส เช่น โรต้าไวรัส หรือโนโรไวรัสที่ปนเปื้อนมากับอาหาร น้ำดื่ม หรือน้ำแข็งที่ไม่สะอาด อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ หรืออาหารที่มีแมลงวันตอมแล้วนำเข้าปาก จนทำให้เกิดอาการท้องเสีย อุจจาระร่วงเฉียบพลัน
    • อาการ ถ่ายอุจจาระเหลว ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ 3 ครั้งขึ้นไปภายใน 24 ชม. หรือถ่ายปนมูกเลือด 1 ครั้งหรือมากกว่าภายใน 24 ชม. มีอาการปวดท้อง ปวดบิด ปวดเบ่ง ปวดบีบเกร็ง มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยเนื้อตัว คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืด ใจสั่น
    • คำแนะนำ ทานยาคาร์บอน และจิบน้ำผสมผงเกลือแร่ ORS เพื่อป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ หากถ่ายเหลวต่อเนื่องเกิน 2-3 วัน และมีไข้สูง ปวดท้องรุนแรง ถ่ายเป็นน้ำปริมาณมากคล้ายน้ำซาวข้าว ซึม ปากแห้ง กระสับกระส่าย ปัสสาวะออกน้อย ชีพจรเต้นเร็ว ให้รีบนำส่งแพทย์ที่ รพ.

Rainy Weather 4

3. โรคติดต่อจากการสัมผัส

  1. มือ เท้า ปาก (HFMD)
    • มือ เท้า ปาก (HFMD) โรคติดเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเตอโรไวรัส (Human enteroviruses) ในระบบทางเดินอาหารและระบบทางเดินหายใจ ผ่านการสัมผัสโดยตรงกับน้ำมูก น้ำลาย แผล ตุ่มน้ำพองใส หรืออุจจาระของผู้ที่มีเชื้อ หรือสัมผัสทางอ้อมกับวัตถุ สิ่งของ หรือของเล่นที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสแล้วนำเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี (ระยะฟักตัว 3-5 วัน)
    • อาการ มีไข้ อ่อนเพลีย เจ็บปาก เจ็บคอ เริ่มงอแง น้ำลายไหล ไม่อยากอาหาร มีแผลที่กระพุ้งแก้ม เพดานปาก ลิ้น มีผื่นขนาดเล็กขึ้นเป็นจุดแดง หรือตุ่มน้ำใสที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า รอบก้นและอวัยวะเพศ อาจมีผื่นที่แขน ขา และตามลำตัว
    • คำแนะนำ แยกเด็กหรือผู้ป่วยไม่ให้ไปสัมผัสกับผู้อื่น สวมหน้ากากอนามัย เช็ดตัวและทานยาลดไข้ ให้ทานอาหารอ่อน ล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้ง ทำความสะอาดของใช้ หากมีไข้สูงเกิน 39 องศา นานกว่า 48 ชม. กระสับกระส่าย ร้องไห้แจ อาเจียนบ่อย ปวดหัวมาก ตัวซีดลาย เหนื่อยหอบง่าย และอ่อนเพลียมาก ให้รีบนำส่งแพทย์ที่ รพ.
  2. โรคฉี่หนู (Leptospirosis)
    • โรคฉี่หนู (Leptospirosis) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ผ่านการสัมผัสกับเชื้อก่อโรคฉี่หนู เลปโตสไปรา (Pathogenic Leptospires) ที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์พาหะนำโรค เช่น หนู สุกร สุนัข หรือโค กระบือ และปนเปื้อนมากับน้ำหลากไหลบ่าในช่วงหน้าฝน หรือสภาพแวดล้อมที่มีน้ำท่วมขัง แล้วติดต่อสู่คนผ่านผิวหนังทางบาดแผล ตา จมูก ปาก หรือเชื้อโรคชอนไชเข้าผิวหนังที่แช่ในน้ำเป็นเวลานาน หรือทานอาหารที่มีเชื้อปนเปื้อนไม่ผ่านการปรุงสุก (ระยะฟักตัว 7-12 วัน )
    • อาการ มีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ สับสน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อโดยเฉพาะกล้ามเนื้อน่องและหลังส่วนล่าง ร่วมกับมีไข้ หนาวสั่น อาเจียน ท้องเสีย ตาแดง หรือเลือดออกใต้ตาขาว
    • คำแนะนำ หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลน หากจำเป็นให้สวมรองเท้าบู๊ท ห้ามไม่ให้แผลโดนน้ำ ปิดแผลด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ ทานอาหารปรุงสุก ดื่มน้ำสะอาด และทำความสะอาดที่พัก หากมีไข้สูง ร่วมกับปวดศีรษะรุนแรง หนาวสั่น ตาแดง ปวดกล้ามเนื้อรุนแรงโดยเฉพาะกล้ามเนื้อน่องและโคนขาหลังสัมผัสกับน้ำท่วมขัง 1-2 สัปดาห์ ให้รีบพบแพทย์ที่ รพ. ทันที
  3. โรคเมลิออยโดสิส (Melioidosis)
    • โรคเมลิออยโดสิส (Melioidosis) โรคติดต่อผ่านการสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในคนและสัตว์ เบอร์โคเดอเรีย สูโดมัลลิอาย (Burkhoderia pseudomallei) ผ่านการสัมผัสกับแหล่งดิน หรือแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่เป็นรังโรคของเชื้อ และเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผล การหายใจเอาละอองฝุ่นไอดิน หรือการสำลักน้ำหรือกลืนน้ำที่มีเชื้อก่อโรค (ระยะฟักตัว 1-21 วัน เฉลี่ย 4-9 วัน)
    • อาการ มีไข้ หายใจหอบเหนื่อย มีจุดที่ปอดแต่ไม่แสดงอาการ มีตุ่มหนองหรือฝีที่ผิวหนัง ฝีหรือหนองที่ปอดหรืออวัยวะภายใน เนื้อเยื่อปอดอักเสบตาย และติดเชื้อในกระแสเลือดจนกระทั่งเสียชีวิต
    • คำแนะนำ ทานอาหารและดื่มน้ำต้มสะอาด สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละออง สวมรองเท้าบู๊ท ถุงมือยาง กางเกงขายาว และชุดลุยน้ำทุกครั้งก่อนทำเกษตรกรรมในช่วงหน้าฝน หากมีประวัติการสัมผัสกับแหล่งดิน แหล่งน้ำ ร่วมกับมีไข้ หายใจหอบเหนื่อย หรือมีอาการคล้ายคลึงกับโรคติดเชื้อ เช่น ไข้ไทฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อย ให้รีบพบแพทย์ที่ รพ. โดยเร็ว

Rainy Weather 5

4. โรคติดต่อนำโดยยุงลาย

  1. ไข้เลือดออก (Dengue fever)
    • ไข้เลือดออก (Dengue fever) โรคติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) ที่มี 4 สายพันธุ์ โดยมียุงลายบ้าน หรือยุงไข้เหลืองเพศเมียเป็นสัตว์พาหะนำโรค ผ่านการกัดและแพร่เชื้อไวรัสไข้เลือดออกสู่คน จนทำให้เกิดอาการป่วย (ระยะฟักตัว 3-4 วัน เฉลี่ย 4-7 วัน)
    • อาการ มีไข้สูงลอยแบบเฉียบพลัน 39-40 องศา ติดต่อกัน 2-7 วัน ร่วมกับมีอาการปวดศีรษะ หน้าแดง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระบอกตา ปวดข้อ ปวดกระดูก มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง เลือดออกตามไรฟัน มีจ้ำเลือด ผื่นแดงตามร่างกาย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ และอาเจียนร่วม (ผู้ที่ติดเชื้อครั้งที่ 2 มักมีอาการรุนแรงกว่าครั้งแรก)
    • คำแนะนำ ทานยาลดไข้กลุ่มพาราเซตามอน ห้ามใช้ยาแอสไพริน ยาไอบูโพรเฟน หรือยาต้านการอักเสบกลุ่ม NSAIDS เพราะจะยิ่งทำให้เลือดออกมากยิ่งขึ้น ให้จิบน้ำเกลือแร่ ORS เป็นระยะ เช็ดตัวทวนรูขุมขนเพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย ทานอาหารอ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ หากมีไข้สูงลอยต่อเนื่องที่ไม่ตอบสนองต่อยาลดไข้ ให้รีบนำส่งแพทย์ที่ รพ . โดยเร็ว
  2. ชิคุนกุนยา (Chikungunya)
    • ชิคุนกุนยา (Chikungunya) หรือโรคไข้ปวดข้อยุงลาย โรคติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา (Chikungunya virus) ที่มียุงลายบ้านหรือยุงลายสวน เป็นสัตว์พาหะนำโรค ผ่านการกัดและแพร่เชื้อไวรัสสู่คน จนทำให้เป็นไข้ชิคุนกุนยา (ระยะฟักตัว 1-12 วัน เฉลี่ย 3-7 วัน)
    • อาการ มีไข้สูงเฉียบพลัน ร่วมกับมีอาการข้อบวมแดง ปวดข้อ เริ่มจากข้อมือ ข้อเท้า ข้อต่อแขนขา บางรายอาจมีผื่นขึ้น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ตาแดง และคลื่นไส้
    • คำแนะนำ ทานยาลดไข้กลุ่มพาราเซตามอน ยาบรรเทาปวดข้อ ห้ามใช้ยาแอสไพริน ยาไอบูโพรเฟน หรือยาต้านการอักเสบกลุ่ม NSAIDS เช็ดตัวเพื่อลดอุณหภูมิ ดื่มน้ำ และพักผ่อนให้เพียงพอ หากมีไข้สูงลอยต่อเนื่อง 2-4 วัน หลังทานยาลดไข้ ตาแดงก่ำ ปวดข้อรุนแรงในหลาย ๆ จุดจนไม่สามารถขยับข้อได้ ให้รีบนำส่งแพทย์ที่ รพ.
  3. ไข้ซิกา (Zika fever)
    • ไข้ซิกา (Zika fever) โรคติดเชื้อไวรัสซิกา (Zika virus) ที่มียุงลายเป็นสัตว์พาหะนำโรคผ่านการกัดและแพร่เชื้อไวรัสสู่คน หรือการติดเชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การถ่ายเลือด และจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ แล้วแสดงอาการของโรคไข้ซิกา (ระยะฟักตัว 2-14 วัน โดยเฉลี่ย 4-7 วัน) หรืออาจไม่แสดงอาการเลย
    • อาการ มีไข้ต่ำ มีผื่นแดงขึ้นตามลำตัว แขนขา มีผื่นที่ฝ่ามือ เยื่อบุตาอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ อาจมีอาการต่อมน้ำเหลืองโต และอุจจาระร่วง โดยทั่วไป อาการมักไม่รุนแรง และจะทุเลาลงภายใน 2-7 วัน ยกเว้นหญิงตั้งครรภ์ที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะศีรษะเล็กในเด็กแรกเกิด เด็กมีพัฒนาการล่าช้า หรือแท้งบุตร
    • คำแนะนำ ทานยาลดไข้กลุ่มพาราเซตามอน ยาบรรเทาปวดข้อ ห้ามใช้ยาแอสไพริน ยาไอบูโพรเฟน หรือยาต้านการอักเสบกลุ่ม NSAIDS เช็ดตัวเพื่อลดอุณหภูมิ พักผ่อน และดื่มน้ำให้มาก ๆ หากมีไข้สูงต่อเนื่องหลังทานยาลดไข้ ตาแดง และปวดข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหญิงตั้งครรภ์ ให้รีบนำส่งแพทย์ที่ รพ. โดยเร็ว

Rainy Weather 6

วิธีดูแลสุขภาพ ช่วงหน้าฝน

ฝนฟ้าอากาศที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน เป็นภาวะแวดล้อมที่ทำให้เกิดโรคติดต่อและภัยสุขภาพ อันนำมาซึ่งอาการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตของผู้คนในทุก ๆ ปี การดูแลสุขภาพและป้องกันตนเองในช่วงฤดูฝน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้การใส่ใจดูแล ทั้งการพกร่มและเสื้อกันฝน การฉีดวัคซีนเสริมภูมิคุ้มกันให้เป็นปัจจุบัน การทานอาหารที่มีประโยชน์ การดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ การทานวิตามินเสริม และการออกกำลังกายเป็นประจำ รวมถึงการหลีกเลี่ยงไม่ไปในพื้นที่น้ำท่วมขังหรือแหล่งน้ำที่ไม่สะอาด การป้องกันไม่ให้ยุงกัด และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย หากรักษาสุขลักษณะที่ดีเหล่านี้ได้ ก็จะช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงตลอดช่วงหน้าฝน

เผยแพร่เมื่อ: 14 ก.ค. 2025

แชร์

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

  • Link to doctor
    นพ. เกษม สิริธนกุล

    นพ. เกษม สิริธนกุล

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์เวชบำบัดวิกฤต
    • อายุรศาสตร์ภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจ
    • อายุรศาสตร์โรคปอด
    โรคหอบหืดและไอเรื้อรัง, หายใจลำบาก, ไอเรื้อรัง, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง, โรคถุงลมโป่งพอง, โรคมะเร็งปอด, โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ, โรคปอดบวม, คลินิกหยุดบุหรี่
  • Link to doctor
    รศ.ดร.นพ. ธันดร งามประเสริฐชัย

    รศ.ดร.นพ. ธันดร งามประเสริฐชัย

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    โรคติดเชื้อทั่วไป, อายุรกรรมทั่วไป, โรคติดเชื้อทางเขตร้อน, โรคติดเชื้อทั่วไป และการให้วัคซีน, ให้คำปรึกษาและการป้องกันโรคก่อนหรือหลังเดินทาง
  • Link to doctor
    รศ.พญ. มาเรีย นิน่า จิตะสมบัติ

    รศ.พญ. มาเรีย นิน่า จิตะสมบัติ

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    โรคติดเชื้อทั่วไป, การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ รวมทั้งโรคแทรกซ้อน, โรคติดเชื้อในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ, โรคติดเชื้อทางเขตร้อน, โรคติดเชื้อแทรกซ้อนหลังปลูกถ่ายอวัยวะ, โรคติดเชื้อในผู้ป่วยโรคมะเร็ง/ มะเร็งโรคเลือด
  • Link to doctor
    รศ.นพ. พอพล โรจนพันธุ์

    รศ.นพ. พอพล โรจนพันธุ์

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์ผู้สูงอายุ
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    อายุรกรรมทั่วไป, อายุรกรรมผู้สูงอายุ
  • Link to doctor
    ผศ.นพ. ถนอมศักดิ์ อเนกธนานนท์

    ผศ.นพ. ถนอมศักดิ์ อเนกธนานนท์

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    โรคติดเชื้อทั่วไป, การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ รวมทั้งโรคแทรกซ้อน, วัคซีน, โรคติดเชื้อในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ, โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, สุขภาพนักเดินทาง การให้วัคซีน และประเมินสุขภาวะก่อนและหลังกลับจากต่างประเทศหรือพื้นที่เสี่ยง, โรคติดเชื้อทางเขตร้อน
  • Link to doctor
    นพ. พีระวงษ์ วีรารักษ์

    นพ. พีระวงษ์ วีรารักษ์

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    โรคติดเชื้อทั่วไป, อายุรกรรมทั่วไป
  • Link to doctor
    รศ.นพ. สถาพร มานัสสถิตย์

    รศ.นพ. สถาพร มานัสสถิตย์

    • อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
    โรคตับและโรคระบบทางเดินอาหารทั่วไป, การติดเชื้อทางเดินอาหาร, ปวดท้องเรื้อรังและเฉียบพลัน, โรคท้องผูกเรื้อรัง, โรคท้องร่วงเรื้อรังและเฉียบพลัน, โรคท้องร่วง, โรคไวรัสตับอักเสบ, ภาวะลําไส้ดูดซึมผิดปกติ, เนื้องอกและก้อนเนื้อในตับ, ภาวะค่าตับที่ผิดปกติ, โรคริดสีดวงทวาร, โรคลำไส้อักเสบ, โรคลำไส้แปรปรวน, ภาวะกลืนลำบาก ปัญหาเกี่ยวกับการกลืน
  • Link to doctor
    นพ. จักกพัฒน์ วนิชานันท์

    นพ. จักกพัฒน์ วนิชานันท์

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    โรคติดเชื้อทั่วไป, อายุรกรรมทั่วไป
  • Link to doctor
    พญ.  ศิรญา ไชยะกุล

    พญ. ศิรญา ไชยะกุล

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    โรคติดเชื้อทั่วไป, อายุรกรรมทั่วไป
  • Link to doctor
    ผศ.นพ. มนต์เดช สุขปราณี

    ผศ.นพ. มนต์เดช สุขปราณี

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ รวมทั้งโรคแทรกซ้อน, การจัดการโรคไวรัสตับอักเสบชนิดซีและการปฏิบัติตัว, โรคติดเชื้อในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ, การติดเชื้อในเวชบำบัดวิกฤต
  • Link to doctor
    รศ.พญ. สิริอร วัชรานานันท์

    รศ.พญ. สิริอร วัชรานานันท์

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    โรคติดเชื้อในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ, โรคติดเชื้อทั่วไป, การติดเชื้อในเวชบำบัดวิกฤต, โรคติดเชื้อหลังปลูกถ่ายอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก, โรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อราลุกลามหรือไวรัส