Presbycusis Banner 1.jpg

ประสาทหูเสื่อมตามอายุ

เริ่มจากมีอาการสูญเสียการได้ยินแบบน้อย ๆ 2 ข้างเท่า ๆ กันและไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย จนค่อย ๆ เป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจใช้เวลานานหลายปี

แชร์

การสูญเสียการได้ยินจากประสาทหูเสื่อมนั้นเกิดได้จาก 3 สาเหตุหลัก ๆ คือ หูชั้นใน ประสาทหู และระบบประสาทส่วนกลาง หนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของการสูญเสียการได้ยินจากประสาทหูเสื่อมที่เกิดจากหูชั้นใน คือประสาทหูเสื่อมตามอายุ (Presbycusis) ซึ่งถือ เป็นปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยอันดับต้น ๆ ในผู้สูงอายุ   รบกวนชีวิตประจำวันและสภาพจิตใจ ทั้งต่อตัวผู้ป่วยเองและคนรอบข้าง

Presbycusis (ประสาทหูเสื่อมตามอายุ หรือภาวะหูตึงในผู้สูงอายุ) เกิดจากการเสื่อมของหูชั้นใน โดยมีลักษณะการดำเนินโรคค่อยเป็นค่อยไป คือจะเริ่มจากมีอาการสูญเสียการได้ยินแบบน้อย ๆ 2 ข้างเท่า ๆ กันและไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย จนค่อย ๆ เป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจใช้เวลานานหลายปี กว่าที่ผู้ป่วยหรือคนรอบข้างจะเริ่มรู้สึกถึงอาการของการได้ยิน ในบางรายอาจมีเสียงรบกวนในหู บางรายอาจมาด้วยฟังไม่รู้เรื่อง คือได้ยินเสียงแต่จับใจความไม่ได้ร่วมด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากความเสื่อมของสมองตามวัย

อาการและการวินิจฉัย
การวินิจฉัยทำได้โดยการตรวจร่างกาย ทั้งหูชั้นนอกและหูชั้นกลาง การตรวจการได้ยิน (Audiogram) ช่วยในการตรวจพบความผิดปกติของประสาทหูเสื่อมที่มักจะมีระดับการได้ยินลดลงในช่วงความถี่สูงมากกว่าความถี่ต่ำ แต่ในการดำเนินโรคระยะท้าย ๆ อาจมีการได้ยินลดลงในหลาย ๆ ความถี่ มักพบในคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป และมีโอกาสพบมากขึ้นตามอายุที่มากขึ้น

ในบางรายงานพบอุบัติการณ์ของประสาทหูเสื่อมตามอายุ ประมาณ 10% ในช่วงอายุ 44-54 ปี 25% ในช่วงอายุ 55-64 ปี และ 40% ในช่วงอายุ 65-84 ปี

การรักษา
เนื่องจากเป็นภาวะเสื่อมตามวัยจึงไม่สามารถแก้ไขที่สาเหตุได้ แต่สามารถป้องกันได้ ในปัจจุบันมีข้อมูลชัดเจนว่าปัญหาการได้ยินเป็นความเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม (Dementia และ Alzheimer’s) ตามมา ดังนั้นผู้ป่วยที่มีปัญหาการได้ยินที่รบกวนคุณภาพชีวิตประจำวัน ควรที่จะมาพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย รักษา ฟื้นฟูสมรรถภาพการได้ยินด้วยการใช้เครื่องช่วยฟัง ร่วมกับได้รับคำแนะนำในการดูแลรักษาสุขภาพของหู การจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะแก่การแยกแยะเสียงได้ชัดเจนมากขึ้น  เช่น ลดเสียงรบกวน ให้ผู้สนทนาอยู่ข้างหน้า ไม่พูดเร็ว หรือพูดประโยคยาวเกินไป ทั้งหมดนี้เพื่อป้องกันการเกิดภาวะสมองเสื่อม และยังช่วยให้สภาพจิตใจของผู้สูงอายุละคนรอบข้างดีขึ้นอย่างชัดเจน






บทความโดย
พญ.ภคนันท์ ธนมิตรามณี
อายุรแพทย์ผู้ชำนาญการโสต ศอ นาสิก
ประวัติแพทย์

เผยแพร่เมื่อ: 19 เม.ย. 2022

แชร์