การตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) 
ด้วยระบบดิจิทัล 3 มิติ  (Tomosynthesis 3D Digital Mammography)
การตรวจแมมโมแกรม หรือ ตรวจมะเร็งเต้านม (Mammogram) ด้วยระบบดิจิทัล 3 มิติ (Tomosynthesis หรือ 3D Mammography) เป็นนวัตกรรมการตรวจเต้านมที่สามารถถ่ายภาพ 2 มิติและ 3 มิติได้ในเวลาเดียวกัน เทคโนโลยีล่าสุดนี้ช่วยให้การ ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม มีความแม่นยำสูงขึ้น ลดความจำเป็นในการตรวจเนื้อเยื่อเต้านมที่สงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งหลังการตรวจด้วยแมมโมแกรมวิธีอื่น ๆ
โดยระหว่างการตรวจนั้น แขนเอกซ์เรย์จะเคลื่อนที่ในแนวโค้งและใช้รังสีปริมาณต่ำเพื่อถ่ายรูปเต้านมในองศาต่าง ๆ จากนั้นคอมพิวเตอร์จะทำการประมวลผลเพื่อสร้างภาพถ่าย 2 มิติและ 3 มิติ โดยสามารถถ่ายรูปชั้นของเนื้อเยื่อเต้านมได้บางถึง 1 มิลลิเมตร มีความละเอียดสูง รังสีแพทย์สามารถตรวจหาความผิดปกติและรอยโรคของมะเร็งเต้านมได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยให้การตรวจคัดกรองมีความแม่นยำยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของการตรวจแมมโมแกรม ระบบดิจิทัล 3 มิติ (Tomosynthesis 3D Digital Mammography)
เครื่องแมมโมแกรมระบบดิจิทัล 3 มิตินั้นสามารถทำการตรวจคัดกรองและตรวจวินิจฉัยโรคได้ในคราวเดียวกัน โดยจะมีความโดดเด่นอยู่ที่แขนเอกซ์เรย์ที่เคลื่อนผ่านเต้านมและถ่ายภาพได้หลายองศา แก้ปัญหาเรื่องข้อจำกัดของภาพถ่ายเนื้อเยื่อเต้านมแบบ 2 มิติที่เนื้อเยื่อเต้านมซ้อนทับกัน การตรวจแมมโมแกรมระบบดิจิทัล 3 มิติช่วยตรวจพบมะเร็งเต้านมได้สูงขึ้นราว 25 % ในขณะที่จำนวนผลบวกลวงลดลงถึง 15%
สำหรับการตรวจแมมโมแกรมระบบดิจิทัล 3 มิติ การใช้อุปกรณ์เพื่อบีบเนื้อเต้านมยังมีความจำเป็นด้วยเหตุผล ดังต่อไปนี้
- ลดปริมาณการใช้รังสี การบีบเนื้อเต้านมนั้นช่วยให้ภาพถ่ายมีความละเอียดชัดเจนโดยใช้รังสีในปริมาณที่ใกล้เคียงกับแมมโมแกรมแบบสองมิติทั่วไป
- แผ่เนื้อเยื่อเต้านมให้บางลง การบีบเนื้อเต้านมจะแผ่เนื้อเยื่อเต้านมให้บางลง ทำให้ตรวจพบความผิดปกติหรือรอยโรคได้ง่ายขึ้น
- ลดภาพเชิงซ้อนของเนื้อเยื่อ ภาพเชิงซ้อนของเนื้อเยื่ออาจรวมกับเป็นภาพที่ดูเสมือนผิดปกติหรือพรางจุดที่ผิดปกติ การบีบเนื้อเต้านมช่วยลดการทับซ้อนกันของเนื้อเยื่อ ทำให้ได้ภาพที่ชัดเจนและถูกต้องมากขึ้น
- เห็นความแตกต่างของเนื้อเยื่อ การบีบเนื้อเต้านมจะทำให้เห็นความแตกต่างของเนื้อเยื่อชนิดต่าง ๆ ได้มากขึ้น ทำให้ตรวจพบความผิดปกติได้ง่ายขึ้น
- ลดการกระจายของรังสี การบีบเนื้อเต้านมช่วยลดการหักเหกระจายของรังสีภายในเต้านม ทำให้ได้ภาพที่คมชัดมากขึ้น
ภาพจาก: https://www.hologic.com
ขั้นตอนการตรวจแมมโมแกรม ระบบดิจิทัล 3 มิติ (Tomosynthesis 3D Digital Mammography)
- เจ้าหน้าที่จะขอให้ผู้เข้ารับการตรวจเปลี่ยนเป็นชุดที่ทางโรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้
- เจ้าหน้าที่จะจัดท่ายืนให้กับผู้เข้ารับการตรวจ โดยสอดเต้านมให้อยู่บนแผ่นรองรับของเครื่อง และดูว่าไม่มีอวัยวะใดของร่างกายบดบังเต้านม
- จากนั้นเจ้าหน้าที่จะปรับแผ่นพลาสติกซึ่งเป็นอุปกรณ์เพื่อบีบเนื้อเต้านม โดยเต้านมจะถูกบีบอยู่สักครู่ ผู้เข้ารับการตรวจอาจรู้สึกไม่สุขสบายหรือเจ็บเล็กน้อย หากเจ็บมากควรแจ้งเจ้าหน้าที่
- จากนั้นแขนเอกซ์เรย์จะเคลื่อนผ่านรอบ ๆ เต้านมเพื่อทำการถ่ายภาพ ผู้เข้ารับการตรวจควรพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุดและอาจจำเป็นต้องกลั้นหายใจในบางจังหวะ
- หลังจากที่ถ่ายภาพชุดแรกเสร็จแล้ว แผ่นพลาสติกที่บีบเนื้อเต้านมจะคลายออก เจ้าหน้าที่จะเปลี่ยนมุมของเครื่องเพื่อทำการถ่ายภาพด้านข้างของเต้านม เจ้าหน้าที่จะทำการจัดท่าและทำการบีบเนื้อเต้านมอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงทำตามขั้นตอนเดิมกับเต้านมอีกข้างหนึ่ง
หลังการตรวจแมมโมแกรม ระบบดิจิทัล 3 มิติ (Tomosynthesis 3D Digital Mammography)
คอมพิวเตอร์จะทำการประมวลผลเพื่อสร้างภาพ 3 มิติที่มีความสมบูรณ์ รังสีแพทย์จะทำการวิเคราะห์ภาพรวมและรายละเอียดเพื่อหาความผิดปกติหรือข้อบ่งชี้โรคมะเร็งเต้านม หลังจากนั้นรังสีแพทย์อาจจะทำการตรวจเพิ่มเติมด้วยอัลตราซาวด์ ในบางรายแพทย์อาจพิจารณาส่งตรวจ MRI หรือตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ
 
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 